Things to know before vaccination for the baby

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนฉีดวัคซีนให้ลูกน้อย

การฉีดวัคซีนสำหรับเด็กๆเป็นสิ่งจำเป็นที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญโดยเฉพาะวัคซีนพื้นฐานที่เด็กๆควรได้รับในแต่ละช่วงวัย เพื่อลดอาการเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ ลดความพิการและการเสียชีวิตค่ะ เนื่องจากเด็กๆโดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปีมีความเสี่ยงสูงต่อการเจ็บป่วยได้ง่ายค่ะ ด้วยระบบการทำงานของร่างกายภูมิต้านทานต่อเชื้อโรคต่างๆต่ำกว่าช่วงวัยอื่นๆ ซึ่งในปัจจุบันวัคซีนป้องกันโรคจำแนกออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่

  • วัคซีนกลุ่มพื้นฐาน

เป็นวัคซีนที่เด็กๆทุกคนต้องได้รับตั้งแต่แรกเกิด ถึงอายุ 12 ปี ได้แก่ บีซีจี, ตับอักเสบบี, คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี, โปลิโอชนิดหยอด, โปลิโอชนิดฉีด, หัด-คางทูม-หัดเยอรมัน, ไข้สมองอักเสบเจอี เป็นต้น ซึ่งสามารถรับวัคซีนได้ที่ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐ เช่น รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงพยาบาลของรัฐ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ

  • วัคซีนกลุ่มทางเลือกหรือวัคซีนเสริม

เป็นวัคซีนกลุ่มที่นอกเหนือจากวัคซีนกลุ่มพื้นฐานที่คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกฉีดหรือไม่ก็ได้ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการฉีดตามแต่ละประเภทของวัคซีนและบริการของโรงพยาบาลนั้นๆ เช่น วัคซีนป้องกันโรคท้องเสียจากไวรัสโรต้า, วัคซีนไข้หวัดใหญ่, วัคซีนอีสุกอีใส, วัคซีนตับอักเสบเอ เป็นต้น

Care for children after vaccination

ก่อนฉีดวัคซีนสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องทราบ เพื่อประโยชน์ต่อตัวลูกน้อยและคุณพ่อคุณแม่ค่ะ เพราะวัคซีนเป็นวิธีการเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคที่สำคัญค่ะ นอกจากการไปตามนัดของคุณหมอแล้วสิ่งที่คุณแม่ต้องทราบ ได้แก่

  • หากลูกมีอาการไอ น้ำมูกไหล หรือถ่ายเล็กน้อย สามารถฉีดวัคซีนได้ แต่ถ้าลูกป่วยมีไข้สูงควร ให้รอ 1 สัปดาห์หรือให้ลูกหายก่อนแลัวค่อยฉีดค่ะ
  • วัคซีนไอกรน ไอกรน คอตีบ บาดทะยัก DTP (ฉีดเมื่อลูกอายุ 2, 4, 6, 18 เดือนและ 4 ขวบ) อาจส่งผลข้างเคียงได้เช่น มีไข้สูง เป็นต้น
  • ไม่ควรให้ลูกกินยาพาราก่อนไปรับวัคซีนเพื่อดักไข้ เพราะลดประสิทธิภาพของวัคซีนค่ะ
  • วัคซีนบางชนิดฉีดแล้วลูกยังป่วยได้ค่ะ แต่ลดความรุนแรงลงได้ 50-90% เช่น ไข้หวัดใหญ่ โรต้า เป็นตัน เพราะการฉีดวัคซีนเป็นการกระตุ้นระบบภูมิต้านทานโรค ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคและความรุนแรงของโรคค่ะ

การดูแลลูกหลังฉีดวัคซีน

Vaccination for children

เนื่องจากการฉีดวัคซีนบางชนิดอาจส่งผลข้างเคียงได้ค่ะ เช่น มีไข้ อ่อนเพลีย ปวด บวมแดงบริเวณแผล และในบางรายอาจมีการแพ้รุนแรงได้ค่ะ ดังนั้นควรสังเกตอาการลูกน้อยหลังได้รับวัคซีนค่ะ หากสงสัยหรือพบความผิดปกติควรปรึกษาแพทย์ค่ะ แต่บางกรณีคุณสามารถดูแลลูกน้อยในเบื้องต้นได้ค่ะ เช่น

  • หลังฉีดวัคซีนลูกอาจมีไข้ใน 1-2 วัน ยกเว้นวัคซีนหัด MMR อาจมีไข้หลังฉีด 1 สัปดาห์ ซึ่งสามารถทานพาราลดไข้ร่วมกับเช็ดตัวได้ค่ะ
  • กรณีมีเลือดออกรอยฉีดวัคซีนให้คุณแม่กดเบาๆนิ่งๆที่แผลห้ามถูไปมาค่ะ กรณีที่เลือดไม่หยุดไหลควรกลับไปพบแพทย์ค่ะ
  • มีอาการปวดบวมแดงบริเวณที่ฉีดวัคซีนใน 24 ชั่วโมงแรกให้ประคบเย็นเพื่อลดอาการปวดค่ะ โดยใช้ผ้าชุบน้ำเย็นค่อยประคบบริเวณนั้นแต่ไม่ควรนาบตรงๆหรือแช่ไว้นานๆค่ะ และประคบอุ่นเพื่อลดอาการบวมช้ำค่ะ แต่หากอาการได้ดีขึ้นใน 7 วัน ควรพาลูกไปพบแพทย์ค่ะ
  • แผลฉีดวัคซีนเป็นก้อนไตแข็ง คุณแม่ไม่ต้องตกใจค่ะเนื่องจากก้อนไตนั้นสามารถหายได้เองใน 2-3 วันค่ะ
  • มีฝีหนองหรือแผลอักเสบเป็นหนอง ควรพาลูกน้อยไปพบแพทย์ค่ะ
  • กรณีที่ลูกมีอาการกระสับกระส่าย หายใจลำบาก อาเจียน ท้องเสีย ชัก ฯลฯ ควรรีบพบแพทย์ทันทีค่ะ เพราะอาการเหล่านี้อาจเกิดจากการแพ้วัคซีนนั้นได้ค่ะ

นอกจากนี้ในกรณีที่ไม่สามารถพาลูกมาฉีดวัคซีนตามกำหนดได้ คุณพ่อคุณแม่สามารถพาน้องไปพบแพทย์ เพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนตามความเหมาะสมได้ค่ะ หรือในกรณีที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการฉีดวัคซีนก่อนกำหนด คุณพ่อคุณแม่สามารถปรึกษาและขอคำแนะนำจากแพทย์ได้ค่ะ แต่การฉีดวัคซีนที่ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดควรได้รับได้กำหนดระยะเวลาค่ะ