Tag: ผ้าอ้อม

  • เด็กดักแด้ ความผิดปกติทางพันธุกรรม

    เด็กดักแด้ ความผิดปกติทางพันธุกรรม

    Epidermolysis Bullosa หรือ โรคดักแด้ เป็นโรคติดต่อทางพันธุกรรม ที่น้อยคนจะเป็น ซึ่งเกิดจากการกลายพันธุ์ของยืนชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า “ยืนเคราติน” ทำให้ผิวหนังเกิดความผิดปกติอย่างรุนแรง ผิวหนังแห้ง มีความเปาะบางอย่างรุนแรง ส่งผลทำให้เกิดแผลพุพองตามผิวหนัง หรือเยื้อเมือกในร่างกายถ้ามองเห็นภาพง่ายๆ ก็คือเหมือนแผลไฟไหม้ แต่จะเป็นทั้งร่างกาย และโรคนี้ยังสามารถลามไปอวัยวะภายในได้ เช่น ระบบทางเดินหายใจ หลอดอาหาร ลำไส้เล็ก กระเพาะอาหาร เป็นต้น ซึ่งสามารถเกิดแผลขึ้นมาได้เอง

    โรคดักแด้มันเกิดกับเด็กทางรกมากที่สุด หรือเรียกว่า “เด็กผีเสื้อ” ซึ่งอาการจะแบ่งความรุนแรงได้หลายระดับ ถ้าเป็นน้อย หรืออาการเบาบาง ก็จะดีขึ้นเอง แต่ถ้าอาการหนัก ก็มีความอันตรายถึงชีวิตได้

    โรคดักแด้มีทั้งหมด 5 ชนิด ซึ่งจะแบ่งความรุนแรงของอาการตามชั้นผิวหนัง ได้ดังนี้

    • Epidermolysis Bullosa Simplex จะเกิดความผิดปกติของผิวหนังในชั้นหนังกำพร้า โรคดักแด้ชนิดนี้ จะเกิดขึ้นผิวหนังชั้นหนังกำพร้าจะเป็นผิวหนังชั้นบนสุด พบได้บ่อยสุดบริเวณฝ่ามือและฝ่าเท้า เป็นชนิดโรคดักแด้ในแบบเริ่มต้น และพบมากที่สุดในเด็กทารก ส่วนมากอาการจะไม่รุนแรงเท่ากับโรคดักแด้ชนิดอื่น ซึ่งผลสำรวจพบว่า ผู้ป่วยที่เป็นโรคดักแด้ จะเป็นโรคดักแด้ชนิดนี้ร้อยละ 70 ของผู้ที่เป็นโรคดักแด้
    • Dystrophic Epidermolysis Bullosa จะเกิดความผิดปกติของผิวหนังในชั้นหนังแท้ โรคดักแด้ชนิดนี้ จะเกิดขึ้นในบริเวณส่วนบนหนังแท้จะอยู่ลึกลงไปที่เยื่อบุรองรับเซลล์ ซึ่งสาเหตุเกิดจากที่ผิวหนังในชั้นนี้ไม่มีคอลลาเจนมามาหล่อเลี้ยงสร้างสมานผิวหนังทำให้ผิวหนังทำงานไม่ดี จึงทำให้ผิวหนังปิดไม่สนิท ซึ่งเด็กทารกที่เป็นโรคดักแด้ชนิดนี้ แรกเกิดจะยังไม่แสดงอาการออกมา แต่จะแสดงอาการหลังเข้าสู่ช่วงวัยเด็ก
    • Junctional Epidermolysis Bullosa จะเกิดความผิดปกติของผิวหนังในชั้นหนังกำพร้าและชั้นหนังแท้ โรคดักแด้ชนิดนี้จะมีความรุนแรงเป็นอันดับ 1 จะมีผู้ป่วยร้อยละ 5 ของโรคดักแด้ ซึ่งโรคดักแด้ชนิดนี้จะเกิดในชั้นผิวหนังที่เยื่อบุรองรับฐานของเซลล์ เป็นชั้นผิวหนังที่จะอยู่ระหว่างหนังแท้กับหนังกำพร้า
    • Kindler Syndrome จะเกิดความผิดปกติของผิวหนังได้หลายรูปแบบ ซึ่งจะเกิดจากรอยโรคในชั้นผิวที่ต่างกันออกไป ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากที่ผู้ป่วยสัมผัสกับแสงแดด และสีผิวจะเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัด
    • Epidermolysis Bullosa Acquisita ความผิดปกติของผิวหนังจากการที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนมากพบได้บ่อยที่ มือ เท้า ข้อศอก โดยจะแสดงอาการเป็นเป็นตุ่มน้ำพองใส หรือไม่บางครั้งก็เกิดจากเมือกตุ่มน้ำพองที่บริเวณปาก จมูก หรือตา ซึ่งโรคดักแด้ชนิดนี้ จะเป็นชนิดเดียวที่จะไม่ได้ติดต่อทางพันธุกรรม และสามารถพบบ่อยในผู้ป่วยรายที่เป็นผู้ใหญ่

    อาการของโรคดักแด้

    โรคดักแด้ มักจะแสดงอาการที่แตกต่างกันออกไปตามลักษณะหรือบริเวณต่างๆ และ ขึ้นอยู่กับชนิดที่เป็น ซึ่งอาการทั่วไปของเด็กดักแด้ คือ บริเวณผิวหนังจะแห้ง หดตัว ซึ่งเด็กดักแด้มักจะเป็นตั้งแต่เกิด ถ้ายังอยู่ในน้ำคล้ำในครรภ์ ผิวหนังก็ยังชุ่มชื้นเป็นปกติ แต่เมื่อคลอดออกมาแล้วสัมผัสกับอากาศ จะทำให้ผิวหนังแห้ง และเมื่อผิวหนังแห้งก็ส่งผลทำให้เกิดการหดตัว จะดึงทุกส่วนที่เป็นช่องเปิดในร่างกาย เช่น ดวงตา ซึ่งจะทำให้หนังเยื่อบุตาปลิ้นออกมา หรือก็บริเวณปาก ทำให้เยื่อบุที่อยู่บริเวณปากปลิ้นออกมา ทำให้เกิดการระคายเคือง ดวงตาปิดไม่สนิท หรือทำให้ปากของเด็กไม่สามารถดูดนมได้

    ในรายเด็กที่อาการไม่รุนแรงก็จะใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ถ้าได้รับสารอาหารหรือน้ำที่เพียงพอ ซึ่งน้ำจะยังช่วยในการสร้างสมดุลน้ำในร่างกายได้ทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น เพราะเด็กที่เป็นโรคดักแด้ จะมีความผิดปกติการสร้างสมดุลความชุ่มชื่นของผิวหนัง หรืออุณหภูมิในร่างกาย และเด็กที่เป็นโรคดักแด้จะ เด็กมีไข้ ไม่สบายอยู่บ่อยครั้ง และสูญเสียน้ำทางผิวหนังไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ต้องคอยระมัดระวังและต้องรักษาความชุ้มชื้นในผิวหนังอยู่ตลอดเวลา

    วิธีการรักษาโรคดักแด้

    โรคดักแด้ จากการสืบค้นทางการแพทย์ยังไม่พบวิธีการรักษาที่จะรักษาให้หายขาด แต่แพทย์จะรักษาตามอาการไม่ให้อาการแย่ลง ซึ่งหากเป็นไม่มาก ก็จะค่อยๆ ดีขึ้น การรักษา หมอจะเน้นการรักษาที่เป็นตุ่มน้ำ การป้องกันไม่ให้เกิดตุ่มน้ำในที่ใหม่ และรักษาเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งอาจส่งผลถึงชีวิต การควบคุมโภชนาการ และการรักษาด้วยยาและการผ่าตัด

    แต่อย่างไรก็ตามโรคดักแด้ ถึงแม้รักษา อาการก็สามารถแสดงอาการที่รุนแรงได้ ซึ่งตัวอย่างการรักษาโรคนี้ที่ผ่านมามีดังนี้

    • การรักษาตุ่มน้ำที่เกิดขึ้นด้วยวัสดุทางการแพทย์โดยเฉพาะ และยังใช้ผลิตภัณฑ์ในการทำความสะอาด และครีมบำรุงที่แพทย์แนะนำ (ต้องอยู่ในการดูแลและการควบคุมของแพทย์)
    • การรักษาโรคดักแด้ด้วยยา ซึ่งการรักษาด้วยยาจะช่วยในเรื่องการระงับความเจ็บปวด และลดอาการคันให้กับผู้ป่วย หรือถ้าหากผู้ป่วยมีอาการติดเชื้อแทรกซ้อน ก็จะรับยาฆ่าเชื้อควบคู่ไปด้วย
    • การให้อาหารผ่านท่อสายยาง ซึ่งจะทำในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารได้ด้วยตัวเอง หรือสามารถกินทางปากได้เล็กน้อย แต่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ด้วยวิธีนี้จะทำให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารตรงตามโภชนาการได้เต็มที่ และเพื่อควบคุมน้ำหนักให้สมดุลปกติ
    • การรักษาด้วยการผ่าตัด ในวิธีนี้จะทำได้แค่เพียงบางกรณี อธิเช่น หลอดอาหารตีบตันที่เกิดจากการเกิดตุ่มน้ำหรือมีแผลที่หลอดอาหาร ดังนั้นก็ต้องทำการผ่านตัดเพื่อขยายหลอดอาหาร เพื่อทำการผ่าตัดจะทำให้ผู้ป่วยช่วยให้รับประทานอาหารได้ง่ายขึ้น อาหารจะผ่านทางหลอดอาหารได้สะดวกขึ้น
    • ทำการผ่าตัดบริเวณที่ผิวหนังติด ซึ่งสาเหตุหลักๆ เกิดจากแผลเป็นที่มาจากโรค ทำให้นิ้วติด ข้อติดได้ หมอจึงทำการผ่าตัดให้ข้อหรือขยับเคลื่อนไหวได้

    วิธีการป้องกันโรคดักแด้

    โรคดักแด้ ในปัจจุบันจะยังไม่มีวิธีป้องกันอย่างร้อยเปอร์เซนต์ ดังนั้น ต้องมีการวางแผนตั้งแต่ตั้งครรภ์ และลองนึกดูว่า คนในครอบครัวมีใครเป็นโรคนี้บ้าง และปรึกษาแพทย์ เพทย์ก็จะทำการตรวจ เพื่อวินิจฉัย ว่าเด็กมีความเสี่ยงของโรคนี่้หรือไม่
    แต่หากมีลูกเป็นโรคนี้แล้ว วิธีการป้องกันและรับมือ มีดังนี้

    • ควรสัมผัสกับเด็กที่เป็นโรคนี้อย่างเบา เครื่องนุ่งห่มก็ควรเป็นผ้าที่อ่อนนุ่ม อธิเช่น ทำมาจากเส้นใยไหม รวมทั้งจัดหาหมอนเพื่อมาหนุนบริเวณก้นเด็ก หลีกเลี่ยงการอุ้มหรือจับบริเวณข้อพับใต้แขนหากไม่จำเป็น
    • หลีกเลี่ยกการใช้ผ้าอ้อมแบบสำเร็จให้ใช้ผ้าอ้อมแบบผ้าธรรมดาที่มีความอ่อนนุ่ม และไม่ควรใช้แผ่นทำความสะอาดต่างๆ เช็ดตัวเด็ก เพราะอาจทำให้เกิดแผลได้
    • ห้องของเด็กที่เป็นโรคดักแด้ ควรมีความเย็นสบายอากาศถ่ายเท ไม่ร้อน
    • คุณพ่อคุณแม่ควรมีเจลปิโตเลียม หรือง่ายคือวาสลืน คอยทาผิวลูกที่เป็นโรคดักแด้ ให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้อยู่เสมอ
    • ควรหมั่นตรวจสอบเล็บมือเล็บเท้าของลูก ตัดให้สั้น เพราะเล็บอาจเป็นอันตรายต่อผิวเด็กได้
    • หากต้องออกไปภายนอกให้ลูกสวมใส่เสื้อผ้าแขนยาวขายาว เพื่อปกป้องผิวจากอากาศและแสงแดด
    • งดใช้พลาสเตอร์ยาเป็นเป็นแบบกาวติดสนิท เพราะอาจสร้างความเสียหายกับผิวเด็กและเกิดบาดแผลเพิ่ม
    • รองเท้าหรือถุงมือ ควรเลือกแบบสวมสบายและนุ่มนวล
    • อาหารควรเลือกที่เป็นประโยชน์และถูกต้องตามโภชนการ

    โรคดักแด้ เป็นโรคที่น้อยคนที่จะเป็น แต่หากเป็นแล้ว ก็ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และควรให้อยู่ในการดูแลของแพทย์ เพราะอันตรายถึงชีวิตได้สำหรับโรคนี้

    บทความที่เกี่ยวข้อง

  • การดูแลเด็กแรกเกิด สำหรับพ่อแม่มือใหม่ : ผ้าอ้อม

    การดูแลเด็กแรกเกิด สำหรับพ่อแม่มือใหม่ : ผ้าอ้อม

    ถ้าถามคุณพ่อคุณแม่ ว่ารู้จักผ้าอ้อมหรือไม่ ผ้าอ้อมคืออุปกรณ์การเลี้ยงลูกที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่ขาดไม่ได้ ก็คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก ประโยชน์ของผ้าอ้อมมีมากมาย ซึ่งผ้าอ้อมในปัจจุบันแบ่งได้ 2 ชนิด คือ ผ้าอ้อมแบบผ้า และผ้าอ้อมสำเร็จรูป (ผ้าอ้อมชนิดใช้แล้วทิ้ง) ความสะดวกแล้วแต่คุณพ่อคุณแม่จะเลือกใช้ได้ตามสะดวก แต่ผ้าอ้อมที่จะแนะนำให้ใช้คือผ้าอ้อมแบบผ้า เนื่องจากมีความนุ่ม ใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี และมีความเสี่ยงที่จะเกิดแพ้และมีผดผื่นน้อยมาก

    ผ้าอ้อมแบบผ้า

    ผ้าอ้อมแบบผ้า

    ผ้าอ้อมแบบผ้า ควรที่จะมีความนุ่มนวล เนื้อผ้านิ่ม ไม่ทำให้ผิวเด็กระคายเคือง ในบริเวณส่วนกลางของผ้าอ้อมควรผับให้มีความหนา เพื่อรองรับการซึมซับการขับถ่ายเบา ถ่ายหนักของลูกได้ ควรหนาแต่พอดี เพราะอาจทำให้ลูกจะอยู่ในลักษณะถ่างขา ส่งผลทำให้กระดูกบริเวณข้อต่อรองสะโพกเคลื่อนได้

    ผ้าอ้อมที่ขายตามท้องตลาด หรือช๊อปสำหรับเด็กจะมี 2 ขนาดด้วยกัน คือ

    ขนาดเล็ก เหมาะสำหรับทารกแรกเกิด จนถึงอายุ 6 เดือน และขนาดใหญ่ จะเหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุ 1-2 ปี

    การทำความสะอาดผ้าอ้อม

    การทำความสะอาดผ้าอ้อม

    ควรจัดเตรียมถังพลาสติกที่มีฝาปิดไว้สำหรับผ้าอ้อมที่เปื้อน ถ้ามีคนซักให้ซักเลย ถ้าไม่มีก็เอาถังใส่น้ำยาซักผ้าเด็กหรือแช่สบู่อ่อน เมื่อเด็กอุจจาระใส่ผ้าอ้อมควรเขี่ยอุจจาระลงในโถส้วม แล้วซักน้ำใหสิ่งที่เปื้อนออกก่อนค่อยนำไปแช่และซักให้สะอาดหมดจด มิฉะนั้นจะระคายผิวทำให้เกิดผดผื่นคันได้

    ผ้าอ้อมสำเร็จรูป หรือผ้าอ้อมที่ใช้แล้วทิ้ง

    ผ้าอ้อมสำเร็จรูป

    ผ้าอ้อมประเภทนี้มีจำหน่ายขายทั่วไป แต่ราคาแพง ไม่เหมาะสำหรับให้เด็กใส่ทั้งวัน เหมาะสำหรับใช้เฉพาะที่มีการเดินทาง หรือใส่ในเวลานอนตอนกลางคืน อีกอย่างที่สำคัญ ความสะอาดสำหรับเด็กเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญ ดังนั้น เมื่อผ้าอ้อมเปียกชื้น ต้องทำการเปลี่ยน และต้องคอยหมั่นดูแล เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้ เด็กอาจเกิดการแพ้แล้วเกิดผื่นคัน หรือที่เรียกว่า “ผื่นผ้าอ้อม

    วิธีการพับผ้าอ้อม

    การพับผ้าอ้อม ให้ลูกได้นุ่งใส่ มีด้วยกันหลายวิธี ซึ่งแต่ละบ้านมีวิธีการพับที่ไม่เหมือนกัน แล้วแต่ความถนัดของแต่ละบ้าน และวิธีการพับผ้าอ้อมที่นิยมใส่กันมีด้วยกัน 2 รูปแบบกัน ดังนี้

    แบบที่ 1 การพับเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งวิธีการพับมีด้วยกัน 4 ขั้นตอน ดังนี้

    พับครึ่งผ้าอ้อม 2 ครั้งเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส (ตัวอย่างดังรูป)
    ดังมุมทางซ้ายกางมาทางขวามือให้เป็นรูปสามเหลี่ยม (ตัวอย่างดังรูป)

    พลิกกลับอีกด้าน พับด้านสี่เหลี่ยมเข้ามา 2 ครั้ง จะทำให้ตรงกลางหนาขึ้น (ตัวอย่างดังรูป)
    อุ้มลูกวางบนผ้าอ้อม โดยให้เอวอยู่ขอบบนของผ้าอ้อม จับผ้าอ้อมส่วนล่างพับขึ้นหว่างขาลูก พับผ้าด้านซ้ายและขวามา กลัดเข็มกลัดตรงกลาง (ตัวอย่างดังรูป)

    แบบที่ 2 การพับแบบว่าว วิธีการพับมีด้วยกัน 2 ขั้นตอน ดังนี้

    วางผ้าอ้อมทแยงมุมดังรูป พับผ้าด้านขวาเข้ามา พับผ้าด้านซ้ายเข้ามาทับผ้าด้านขวา จะได้สีเหลี่ยมรูปว่าว (ตัวอย่างดังรูป)
    พับผ้าด้านบนลงมา แล้วพับผ้าด้านล่างขึ้นไป กะขนาดให้พอเหมาะกับรูปร่างของลูก จะได้ผ้าอ้อมรูปสี่เหลี่ยมคางหมู วางลูกลงไปบนผ้าอ้อม ให้เหลี่ยมด้านกว้างอยู่ที่เอวลูก ด้านที่แคบกว่าอยู่บริเวณขา พับผ้าด้านล่างขึ้นไปบนตัวลูก ดึงผ้าชิ้นหลังทั้งซ้าย-ขวา เข้ามากลัดกับผ้าส่วนบน (ตัวอย่างดังรูป)

    ข้อควรระวัง ในขณะที่จะกลัดเข็มกลัด คุณพ่อคุณแม่ต้องมีความระมัดระวังให้อย่างมาก ควรใช้มือข้างใดข้างหนึ่งรองกั้นระหว่างผิวของลูกในที่ขณะกำลังสอดเข็มกลัดเข้าไป และจำไว้เสมอว่าควรแทงเข็มชี้ขึ้นเสมอ และควรเลือกเข็มกลัดที่มีขนาดใหญ่และไม่หลุดง่าย เพื่อความปลอดภัยและเป็นการป้องกันการดิ้นของลูกและทำให้เข็มกลัดหลุดออกมา

  • สิ่งที่ควรทราบก่อนพาลูกไปดูหนัง

    สิ่งที่ควรทราบก่อนพาลูกไปดูหนัง

    การดูหนังเป็นกิจกรรมความบันเทิงหนึ่งที่หลายคนนิยมทำในวันหยุด แต่เมื่อมีลูกการจะไปดูหนังในโรงภาพยนตร์อาจเป็นเรื่องยาก เพราะสำหรับเด็กๆแล้วการหนังดูหนังกับที่เป็นเวลานานคงเป็นเรื่องยาก เพราะปกติแล้วเด็กๆมักมีความอยากรู้อยากเห็น ขี้สงสัยช่างพูดช่างคุย ไม่ชอบอยู่กับที่หรือต้องโดนบังคับให้ต้องอยู่กับที่เป็นเวลานานและมักจะแสดงออกด้วยการร้องไห้งอแงได้ค่ะ ซึ่งพฤติกรรมตามธรรมชาติของเด็กนั้นรบกวนผู้อื่นที่ร่วมดูหนังได้ค่ะ ดังนั้น สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทราบก่อนไปลูกไปดูหนังมีอะไรบ้าง ซึ่งวันนี้เรามีเคล็ดลับตัวช่วยคุณเมื่อต้องการพาลูกไปดูหนังในโรงภาพยนตร์

    การพาลูกไปดูหนังในโรงภาพยนตร์นั้น คุณสามารถทำได้เมื่อลูกถึงวัยที่เหมาะสมค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ควรพาเด็กทารกไปดูหนังเนื่องจากเสียงที่ดังสามารถทำลายแก้วหูของทารกได้ค่ะ และเด็กที่อายุต่ำกว่า 4 ปี มักจะอยู่ไม่นิ่งไม่มีสมาธิในการนั่งนิ่งๆนานๆหรือไม่พูดคุยในระหว่างการดูหนังยาวเป็นชั่วโมงได้ค่ะ ถึงแม้ว่าจะมีการวางแผนที่ดีแต่ถึงอย่างไรโปรดจำไว้เสมอว่า เด็กๆไม่น่ารักสำหรับทุกคนเพราะบางคนเขาอาจจะไม่ชอบเด็กรู้สึกหงุดหงิด หรือไม่ชอบเมื่อคุณพาลูกเข้าไปดูหนังรอบเดียวหรือต้องนั่งใกล้ๆเขาค่ะ และสิ่งที่ต้องคำนึงก่อนพาลูกไปดูหนังคือการดูหนังในโรงภาพยนตร์คุณต้องร่วมดูกับผู้อื่นหรือคนแปลกหน้า เด็กอาจไปสัมผัสหรือรบกวนผู้อื่นได้ การเลือกภาพยนตร์ไม่ควรเป็นหนังที่มีความตื่นเต้นหรือเล้าใจมากเกินไปเพราะอาจทำให้เด็กตกใจได้ง่ายขึ้น เนื่องจากโรงหนังมีบรรยากาศที่เย็นและมืด ซึ่งเด็กอาจจะรู้สึกอึดอัดและร้องไห้งอแงได้ค่ะ

    เคล็ดลับในการนำเด็กไปที่โรงภาพยนตร์

    การเลือกภาพยนตร์ที่ถูกต้องเป็นเรื่องสำคัญมากเพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ควรจะเป็นมิตรกับเด็ก เพราะสร้างควมน่าสนใจให้กับเด็กในการนั่งดูหนังนิ่งๆเป็นเวลานานและเป็นเด็กที่ไม่กลัวความมืดค่ะ นอกจากนี้ควรเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการดูหนังเช่น

    จุกหลอกควรมีรูระบายอากาศ

    ผ้าห่ม

    • ผ้าห่มที่อบอุ่นสบายสำหรับลูกน้อยและสวมใส่ถุงเท้า

    โรงหนังเด็ก

    • ตรวจสอบว่าคุณมีโรงภาพยนตร์ที่เป็นมิตรกับเด็กๆ รองรับผู้ปกครองที่มีเด็กเนื่องจากบางโรงหนังไม่อนุญาตให้พาเด็กเข้าไปด้วยค่ะ

    เลือกการดูหนังหรือจองที่นั่งในวันธรรมดาที่มีผู้คนน้อย

    • เลือกการดูหนังหรือจองที่นั่งในวันธรรมดาที่มีผู้คนน้อยค่ะ หลีกเลี่ยงหนังสยองขวัญ หรือหนัง 3D, 4D เนื่องจากภาพที่ส่งผลต่อการมองเห็นทำให้ลูกรู้สึกกลัวได้ค่ะ

    เปลี่ยนผ้าอ้อม

    • เปลี่ยนผ้าอ้อมหรือให้ลูกเข้าห้องน้ำก่อนเข้าโรงหนัง เพื่อให้ลูกรู้สึกสบายตัวมากขึ้นค่ะ

    ของเล่น

    • นำของเล่นไม่มีเสียงชิ้นโปรดไปด้วย ซึ่งอาจช่วยให้ลูกสงบและหลับได้ง่ายขึ้นค่ะ

    ทางออกโรงหนัง

    • อย่าลืมจองที่นั่งใกล้กับประตูทางออกหรือห้องน้ำเพราะคุณอาจต้องออกมากกว่าหนึ่งครั้ง
    • สิ่งที่สำคัญมากถ้าลูกของคุณร้องไห้หรือมีปัญหาในการดูหนัง ต้องขอโทษกับคนที่เขารบกวนและพาลูกออกไปข้างนอกจนกว่าพวกเขาจะสงบลงค่ะ

    การพาเด็กไปดูภาพยนตร์เป็นหัวข้อที่ถกเถียงกันและส่วนใหญ่เห็นด้วยว่าควรรอจนกว่าพวกเขาจะโตขึ้น อย่างไรก็ตามอย่าหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านเพียงเพราะคุณมีลูก คุณสามารถเรียนรู้และระมัดระวังได้ค่ะเพื่อให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับภาพยนตร์ที่ดีและเป็นมิตรกับลูกน้อยของคุณได้ค่ะ

  • ช้อปปิ้งเด็กแรกเกิด สิ่งของจำเป็นสำหรับลูกน้อย

    ช้อปปิ้งเด็กแรกเกิด สิ่งของจำเป็นสำหรับลูกน้อย

    สิ่งของเครื่องใช้ที่สำคัญที่สุดที่ทารกแรกเกิดคืออะไร หลายท่านเชื่อว่าไม่ควรซื้อสิ่งของเครื่องใช้สำหรับเด็กไว้ จากความเชื่อที่ว่าเด็กอาจจะไม่ได้เกิดมีวิญญาณที่อิจฉาพรากเด็กไป เนื่องจากสมัยก่อนอันตรายจากการคลอดลูกมีความเสี่ยงสูง จึงทำให้การเตรียมของใช้สำหรับเด็กไม่มากนัก เนื่องจากสิ่งของเครื่องใช้ส่วนใหญ่มีราคาค่อนข้างสูงหรือมักเกิดจากการเห่อลูกทำให้มีการเตรียมของใช้ไว้มาเกินความเป็นค่ะ ซึ่งบางอย่างอาจไม่ได้ใช้และการซื้อสิ่งของบางอย่างมาเก็บไว้เป็นเวลานอนทำให้มีสิ่งสกปรกหรือเชื้อราได้ค่ะ ดังนั้นการตรวจสอบสิ่งของจำเป็นสำหรับทารกแรกเกิดนั้น สามารถช่วยคุณพ่อคุณแม่กำหนดสิ่งที่คุณต้องซื้อและเตรียมความพร้อมสำหรับการคลอดของทารกตามความจำเป็นค่ะ

    สิ่งที่ควรซื้อสำหรับทารกแรกเกิด

    การเตรียมสิ่งของสำหรับเด็กนั้นต้องคำนึงถึงสิ่งต่างๆและความจำเป็นค่ะ สิ่งของจำเป็นสำหรับทารกแรกเกิดคือต้องมีชุดเสื้อผ้าสำหรับทารกและอุปกรณ์เสริมที่เหมาะสมกับสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม และในบทความนี้สิ่งจำเป็นสำหรับทารกแรกเกิดจะถูกแบ่งออกเป็นวัตถุประสงค์เพื่อให้ง่ายขึ้นสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ค่ะ

    เสื้อผ้า สิ่งแรกที่คุณต้องซื้อสำหรับทารกแรกเกิดของคุณคือ เสื้อผ้าเด็กแรกเกิดจะต้องสวมใส่สบาย ผลิตจากวัสดุที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่ตกแต่งด้วยเลื่อม ริ้บบิ้นหรือกระดุมเพราะสิ่งเหล่านี้อาจเป็นอันตรายจากการสำลักหรือเป็นสาเหตุของการระคายเคืองผิวหนัง อย่าซื้อเสื้อผ้ามากเกินไปเพราะเด็กแรกเกิดโตเร็ว นอกจากนี้ให้พิจารณาสภาพอากาศค่ะ เช่น ชุดบอดี้สูทหรือชุดนอนสำหรับทารกแรกเกิดได้รับการออกแบบเพื่อให้ง่ายต่อการเปลี่ยนแปลงและแต่งตัว ถุงเท้าเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เท้าของทารกแรกเกิดอบอุ่นตลอดเวลา หากอุณหภูมิลดลงหรือเมื่อออกไปข้างนอก เป็นต้น

    อาบน้ำและทำความสะอาด ซึ่งเด็กทารกแรกเกิดจำเป็นต้องใช้ผ้าเช็ดหรือฟองน้ำเช็ดทำความสะอาดอย่างรวดเร็ว และสิ่งจำเป็นสำหรับการอาบน้ำและการทำความสะอาดที่คุณจะต้องมีสำหรับทารกคือ

    • อ่างอาบน้ำ ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของทารกและความสะดวกสบายของคุณ สามารถเลือกอ่างอาบน้ำตามความต้องการจากตัวเลือกที่มีอยู่ในตลาด
    • ผ้าขนหนูหรือผ้าเช็ดตัว ควรเป็นผ้าที่ทำจากวัสดุดูดซับน้ำได้ดีและอ่อนโยนต่อผิวหนังลูกน้อย
    • แชมพูสำหรับเด็กทารกแรกเกิด ต้องใช้แชมพูที่อ่อนโยนปราศจากปราศจากน้ำหอม เมื่อใช้เป็นครั้งแรกคุณสามารถซื้อขวดเล็กและตรวจสอบว่าผิวของทารกแรกเกิดมีปฏิกิริยาอย่างไรค่ะ
    • ครีมบำรุงผิวหรือออยบำรุงสำหรับทารกแรก เกิดให้ผิวชุ่มชื่นซึ่งต้องใช้ทุกครั้งหลังอาบน้ำ หากไม่แน่ใจว่าครีมจะเหมาะกับลูกน้อยของคุณหรือไม่ให้ทำการทดสอบและรอสักครู่ หากผิวของทารกไม่มีปฏิกิริยาคุณสามารถทาได้ทั่วร่างกายค่ะ

    ผ้าอ้อมและอุปกรณ์ เมื่อคุณนึกถึงเด็กแรกเกิดแง่มุมแรกที่นึกถึงนอกเหนือจากเสื้อผ้าคือ ผ้าอ้อมค่ะ สิ่งของจำเป็นสำหรับเด็กๆค่ะ

    • ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ไม่ควรซื้อในจำนวนมากๆเกินไปเนื่องจากทารกส่วนใหญ่มักเปลี่ยนขนาดบ่อย และในบางรายอาจแพ้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปบางยี่ห้อค่ะ
    • ผ้าอ้อมผ้าฝ้าย คือผ้าอ้อมที่สามารถนำกลับมาให้ใหม่เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยสำหรับผิวทารกที่บอบบาง อย่างไรก็ตามต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมเหล่านี้ทันทีที่เปื้อนและควรซักทำความสะอาดทุกวันค่ะ 
    • ครีมป้องกันผดผื่นผ้าอ้อม การเลือกซื้อต้องมั่นใจในคุณภาพและเหมะสำหรับเด็กแรกเกิด
    • ผ้าเช็ดทำความสะอาดเปียก หรือที่เรียกว่า ทิชชู้แบบเปียก การทำความสะอาดก้นทารกแรกเกิดจะต้องทำอย่างอ่อนโยนและถูกสุขลักษณะ ผ้าเช็ดทำความสะอาดเปียกช่วยให้คุณเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวลูกน้อย ซึ่งควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอมเพราะผิวเด็กบอบบางอาจเกิดอาการแพ้ได้ค่ะ
    • ผ้าสำหรับรองเปลี่ยนผ้าอ้อม สิ่งนี้จำเป็นมากเมื่อต้องเดินทางหรือออกนอกบ้านค่ะ ตัวช่วยให้คุณแม่มั่นใจในการวางลูกน้อยเปลี่ยนผ้าอ้อมได้สะดวกมากขึ้นค่ะ

    การให้นมลูก โดยไม่คำนึงถึงวิธีการเลี้ยงลูกน้อยของคุณ ซึ่งรายการด้านล่างจะช่วยให้คุณแม่ทราบว่าคุณจำเป็นต้องให้นมลูกอย่างไร

    • เสื้อและชุดชั้นในสำหรับให้นม ควรเป็นเสื้อที่สามารถเปิดให้นมลูกได้สะดวกสบาย นอกจากนี้คุณอาจเลือกแผ่นซับน้ำนมหรือแผ่นป้องกันหัวนมเพื่อดูดซับน้ำนมส่วนเกินที่อาจรั่วไหลออกมาได้ค่ะ
    • เครื่องปั้มน้ำนม ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบที่จำหน่ายในท้องตลาด เช่น เครื่องปั๊มน้ำนมไฟฟ้า ที่ปั๊มนมด้วยตนเอง รวมถึงถุงสำหรับบรรจุน้ำนม ทั้งนี้การเลือกชื้อขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณค่ะ 
    • อุปกรณ์ฆ่าเชื้อ ไม่ว่าคุณจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่หรือป้อนขวดนมทารกแรกเกิดซึ่งจะต้องฆ่าเชื้อจุกนม จุกนมหลอกและขวดนมโดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี การทำความสะอาดอย่างเดียงอาจไม่เพียงพอค่ะ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของทารกอ่อนแอ
    • ขวดนม จุกนม คุณสามารถเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับลูกน้อย แต่ต้องแน่ใจว่าคุณซื้อขวดนมไม่มีสาร BPA ที่ทำจากวัสดุคุณภาพดีที่สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้

    ชุดเครื่องนอนสำหรับเด็ก ที่นอนและแปลควรเป็นที่นอนที่หนาแน่นและมีน้ำหนักเบาหลีกเลี่ยงที่นอนที่นุ่มเกินไปจนตัวลูกยุบตามที่นอนได้ เพราะอาจทำให้ทารกหายใจไม่ออกค่ะ ผ้าห่มควรเบาและระบายอากาศได้ ในบางบ้านอาจใช้มุ้งเพื่อกันยุงร่วมด้วยค่ะ

    ความปลอดภัย การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับลูกน้อย เช่น การสร้างหรือจำกัดพื้นที่เฉพาะสำหรับเด็ก การป้องกันมุมเฟอร์นิเจอร์ ประตูบันไดมีความจำเป็นอย่างมากในการหลีกเลี่ยงการตกและอื่นๆ ที่สามารถช่วยให้บ้านของคุณปลอดภัยสำหรับลูกน้อย นอกจากนี้ควรมีชุดปฐมพยาบาล เครื่องวัดอุณหภูมิที่เกี่ยวกับการเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ

    อุปกรณ์สำหรับเด็กอ่อนอื่นๆเมื่อต้องออกนอกบ้าน เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเตรียมพร้อมสำหรับมื้ออาหารหรือออกไปข้างนอก เช่น เป้อุ้มเด็ก คาร์ซีท รถเข็นเด็ก รวมถึงอุปกรณ์ทานอาหารสำหรับเด็ก ซึ่งมีผลิตภัณฑ์สำหรับทารกที่หลากหลายเหมาะสำหรับวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไปค่ะ คุณแม่สามรถเลือกได้ตามความต้องการและเหมาะสมกับลูกของคุณ

    เนื่องจากการคลอดลูกมีสิ่งจำเป็นมากที่ต้องทำในขณะที่เตรียมการสำหรับการมาถึงของทารกแรกเกิด และการซื้อของใช้ต่างๆจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเตรียมพร้อม แต่ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความจำเป็นและเหมาะสมกับลูกของคุณมากที่สุดค่ะ