Tag: ป้องกันการลืมเด็กไว้ในรถ

  • 4 วิธีการแก้ไขปัญหาการลืมเด็กไว้ในรถ

    4 วิธีการแก้ไขปัญหาการลืมเด็กไว้ในรถ

    เมื่อวันอังคารที่ 11 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา ได้มีข่าวการเสียชีวิตของเด็กชายอายุเพียง 3 ปี (น้องกองบิน) ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช สาเหตุของการเสียชีวิต คือเด็กได้ถูกลืมทิ้งไว้ในรถตู้ของโรงเรียนเป็นเวลานานถึง 6 ชั่วโมงกับอีก 30 นาที ถือเป็นเหยื่อเด็กอีกรายล่าสุดที่จบชีวิตกับการถูกลืม เรียกได้ว่าปัญหาดังกล่าวที่เป็นปัญหาที่ซ้ำซาก ไม่ถูกนำมาแก้ไขอย่างจริงจังเสียที

    จากข้อมูลของศูนย์วิจัยเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี (CSIP) ได้ทำการสำรวจวิจัยและพบว่า เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี จะถูกลืมไว้ในรถมากที่สุด และเป็นช่วงวัยที่ที่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้หากไม่ได้รับการสอน จึงทำให้สถิติการเสียชีวิตกับปัญหาดังกล่าวสูงที่สุด ดังนั้น ในครั้งนี้เรามาเรียนรู้ถึงปัญหาการที่ลูกถูกลืมไว้ในรถ ทั้งความน่ากลัว และวิธีการป้องกันไม่ให้เด็กถูกลืมไว้ในรถกันค่ะ

    สาเหตุการเสียชีวิตเมื่อลืมเด็กไว้ในรถ

    สาเหตุการเสียชีวิตของเด็กที่ถูกลืมไว้ในรถส่วนใหญ่เกิดจากที่ร่างกายของเด็กมีความร้อนสูงเกินขนาด คือมีความร้อนสูงถึง 42 องศา หากถูกลืมไว้ในรถนานเกิน 2 ชั่วโมงขึ้นไปจากนั้นเด็ก จากนั้นเซลล์ในร่างกายจะเริ่มตาย เลือดในร่างกายจะเริ่มเป็นกรด ต่อมาสมองก็จะบวมจนไปทับก้านสมองในส่วนการควบคุมในระบบการหายใจ

    ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ได้แนะนำ ให้ผู้ปกครองห้ามทิ้งลูกไว้ในรถขณะที่จอดรถไว้ที่กลางแจ้ง ถ้าไม่จำเป็นที่ต้องทิ้งลูกไว้ ก็ให้นำลูกลงจากรถไปด้วยในทุกๆครั้ง ไม่เพียงเท่านี้ ไม่ควรที่จะแง้มหน้าต่างรถและทิ้งลูกไว้ เพราะไม่ได้ป้องกันความร้อนภายในรถได้ เพราะสาเหตุหลักที่เด็กเสียชีวิตไม่ได้เกิดจากการขาดอากาศหายใจ แต่เพราะเกิดความร้อนในรถที่สูงเกินกว่าร่างกายเด็กจะรับไหว ถึงแม้จะจอดรถไว้ในที่ร่มก็ตามเด็กก็สามารถเสียชีวิตจากความร้อนสูงได้เช่นกัน

    วิธีการป้องกันการลืมเด็กไว้ในรถ

    การป้องกันการลืมเด็กไว้ในรถมีด้วยกัน 4 ข้อ ดังนี้

    • ไม่ว่าจะทำธุระเร็วหรือช้า ไม่ควรทิ้งเด็กไว้ตามลำพังโดยเด็ดขาด ควรนำเด็กลงไปด้วยทุกครั้ง ถึงแม้เด็กจะหลับอยู่ก็ตามก็ต้องเอาลงจากรถ ไม่ต้องกังวลเรื่องลูกงอแง ควรนึกถึงเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ ไม่เพียงเท่านี้ยังเป็นการฝึกลูกในรู้ว่าการจอดรถต้องลงจากรถ
    • แง้มหน้าต่าง แล้วทิ้งลูกไว้ได้ เป็นความเข้าใจผิด เพราะสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กที่ถูกทิ้งไว้ไม่ได้เกิดจากการขาดอากาศหายใจแต่เกิดจากความร้อนที่สูงมากเกินกว่าร่างกายเด็กรับไหว ดังนั้น ทำความเข้าใจใหม่ ไม่ควรแง้มหน้าต่างแล้วทิ้งลูกเอาไว้ ควรให้ลูกลงจากรถทุกครั้ง
    • ในกรณีที่ไปกับรถคนอื่นควรหมั่นตรวจสอบสอบถามเป็นระยะว่าต้อนนี้ลูกอยู่ที่ไหน ลงจากรถแล้วหรือยัง เพราะการที่เราต้องหมั่นตรวจสอบเพราเพื่อความปลอดภัยของลูก เพราะผู้ที่ไม่มีประสบการณ์การเลี้ยงลูกอาจมีการเผลอลืมเด็กไว้ในรถเป็นได้
    • ในกรณีที่ลูกไปโรงเรียนกับรถโรงเรียน ก่อนใช้บริการควรตรวจสอบมาตรฐานการรับส่งของผู้ให้บริการว่าดีหรือไม่ เพื่อความมั่นใจ ซึ่งเอาจริงๆ เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ไม่ควรใช้บริการของรถโรงเรียน เพราะด้วยความต้องรับผิดชอบหลายชีวิต อาจมีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นได้บ่อยเสมอ ดังนั้นช่วงเด็กอายุประมาณนี้ พ่อแม่ควรเป็นคนรับส่ง แต่หากจำเป็นจริงๆ พ่ออแม่ต้องดูถึงมาตรการความปลอดภัยของรถโรงเรียนด้วย ไม่ใช่ดูเฉพาะสภาพรถว่าเป็นอย่างไรเท่านั้น แต่ต้องดูถึงเรื่องผู้ที่ต้องเป็นคนไปรับส่งลูกว่ามีใครบ้าง คนขับรถเป็นอย่างไร คนที่ติดรถเป็นคุณครูระดับปฐมวัย มีความเข้าใจเรื่องเด็กเล็กไหม เวลารับส่งเด็กขึ้นรถลงรถมีการเช็คชื่อเด็กหรือไม่ แล้วมาตรการของโรงเรียนเป็นอย่างไร เมื่อเด็กถึงโรงเรียนแล้วมีการดับเบิ้ลเช็คอีกครั้งหรือไม่

    ดังนั้น สิ่งที่ต้องตระหนักอย่างยิ่งเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยก็คือ ผู้ที่ใกล้ชิดเด็กเล็กทั้งหลายต้องมีความระมัดระวังมากกว่าปกติหลายเท่า เพราะต้องคิดเสมอว่าเด็กเล็กยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองเรื่องความปลอดภัยได้ เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ต้องไม่ประมาทแม้เพียงเสี้ยววินาที

    บทความที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับความปลอดภัยสำหรับเด็ก