Tag: ประกันสุขภาพ

  • ทำไมต้องประกันสุขภาพเด็ก

    ทำไมต้องประกันสุขภาพเด็ก

    ทำไมต้องประกันสุขภาพเด็ก

    การดูแลสุขภาพลูกเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นความสุขของพ่อแม่ที่เห็นลูกน้อยเติบโต พร้อมสุขภาพที่แข็งแรงเพื่อพัฒนาการในการเจริญเติบโตสมวัย และการเรียนรู้อย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้น คุณพ่อคุณคุณแม่จึงให้ความสำคัญต่อการดูแลใส่ใจลูกน้อยตั้งแต่เป็นทารกในครรภ์ ทั้งเรื่องของอาหารและสุขภาพที่ดีของลูก แต่ถึงอย่างไรก็ตามการเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นกับใครเมื่อไร และด้วยโรคภัยไข้เจ็บที่มีการติดต่อกันง่าย เชื้อโรคต่างๆที่มีการพัฒนาสายพันธ์ใหม่ และค่ารักษาพยายามสำหรับเด็กที่ค่อนข้างสูงค่ะ การทำประกันสำหรับเด็กจึงมีความสำคัญต่อตัวลูกน้อย ซึ่งหลายๆครอบครับอาจมองว่าเป็นการสิ้นเปลืองหรือเปล่า ในเมื่อก็มีสิทธิในการเข้ารักษาในโรงพยาบาลของรัฐอยู่แล้ว ดังนั้น วันนี้เราพูดถึงข้อดีของการทำประกันเด็ก ว่าทำไมเด็กถึงคุณพ่อคุณแม่ต้องมองหาการประกันสุขภาพสำหรับลูกน้อยค่ะ สรุปได้ดังนี้

    เด็กมีแนวโน้มที่จะเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บมากกว่าผู้ใหญ่
    เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของเด็ก ระบบการทำงานของร่างกายยังไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้เจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะวัยอนุบาล แม้แต่ความเจ็บป่วยเล็กน้อยก็สามารถคุกคามสุขภาพของเด็กๆได้ เช่น การติดเชื้อที่หูอาจนำไปสู่การสูญเสียการได้ยินหากไม่ได้ กระดูกของเด็กยังมีความเปราะบางกว่าผู้ใหญ่ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการแตกหักได้ง่าย เป็นต้น หลายๆท่านอาจจะคิดว่า ไม่เป็นอะไรมากหรอก เพราะร่างกายของเด็กเป็นวัยกำลังเจริญเติบโต จึงมีความยืดหยุ่นสูงการเจ็บป่วยมักฟื้นฟูได้เร็วกว่าผู้ใหญ่ แต่อันที่จริงแล้วไม่ว่าในช่วงวัยไหนหากไม่เข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม ย่อมส่งผลกระทบต่างๆตามมาได้เช่นกันค่ะ ซึ่งอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

    การดูแลขณะเจ็บป่วย
    ในกรณีที่ลูกน้อยเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งหากลูกมีประกันสุขภาพจะช่วยให้คุณแม่หมดกังวลในการเลือกสถานพยาบาลที่จะเข้าใช้บริการ และสถานพยาบาลที่คุณแม่ไว้วางใจว่าดีที่สุด มั่นใจว่าลูกจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุด ช่วยลดภาระในเรื่องของค่าใช้จ่ายต่างๆในขณะเข้ารับการรักษาค่ะ

    ความคุ้มครอง
    ในเรื่องของความคุ้มครองจะมีความแตกต่างกันค่ะ ขึ้นอยู่กับความคุ้มของประกันที่คุณพ่อคุณแม่เลือกทำเอาไว้ ซึ่งโดยทั่วไปมักจะเลือกจากโรคที่มีการแพร่ระบาดในเด็ก ติดต่อกันได้ง่าย เช่น โรคมือเท้าปาก โรคไขหวัดใหญ่ โรคท้องร่วง เป็นต้น และป้องกันการเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อยที่อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงได้ค่ะ เพราะในบางครั้งคุณพ่อคุณแม่อาจคิดว่าไม่เป็นอะไรมาก หรืออาจจะกังวลในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการรักษา หลายครอบครัวอาจรักษาเด็กๆด้วยการรักษาอาการเบื้องต้นที่พบ ซึ่งในบางโรคนั้นหากทำการรักษาไม่ถูกต้องอาจส่งผลร้ายได้ค่ะ

    เพราะสุขภาพของลูกรอไม่ได้ค่ะ ซึ่งการดูแลจากคุณพ่อคุณแม่อาจไม่เพียงพอ เพราะการเจ็บป่วยสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลาและทุกคนค่ะ การทำประกันสุขภาพเด็กจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยดูแลเด็กๆและลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ปัจจุบันการทำประกันให้กับลูกไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจยากอย่างที่คิด และมีให้เลือกหลายแพคเกจที่เหมาะกับความต้องการของคุณค่ะ ที่สำคัญต้องเหมาะความสามารถในการจ่างเบี้ยประกันค่ะ เพราะการทำประกันสุขภาพนั้นเป็นการจ่ายเบี้ยระยะยาวค่ะ สำหรับตัวแม่เองก็เลือกที่จะทำประกันสุขภาพให้กับลูกเช่นกันค่ะ เพราะสุขภาพของลูกเป็นสิ่งสำคัญ

  • ประกันสุขภาพเด็กอายุ 1 เดือน ถึง 10 ปี(อลิอันซ์ อยุธยา)

    ประกันสุขภาพเด็กอายุ 1 เดือน ถึง 10 ปี(อลิอันซ์ อยุธยา)

    ประกันสุขภาพเด็กอายุ 1 เดือน ถึง 10 ปี(อลิอันซ์ อยุธยา)
    ประกันสุขภาพของลูกคุณสามารถวางแผนได้ แต่สุขภาพและค่ารักษาพยาบาลของลูกคุณไม่สามารถคาดเดาได้ โดยเฉพาะเด็กๆอายุ 0 – 10 ปี ช่วงวัยของการเจริญเติบโตการพัฒนาในด้านต่างๆ ทั้งทางร่างกาย จิตใจและอารมณ์ ดังนั้นอย่าปล่อยให้การเจ็บป่วยของเด็กๆเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้สิ่งต่างๆ วันนี้แอดมินจะขอยกตัวอย่างประกันสุขภาพเหมาจ่ายสำหรับเด็กอายุ 1 เดือน ถึง 10 ปี ที่คุ้มครองค่ารักษาพยาลสูงถึง 1.2 ล้านบาทต่อปี จากอลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาประกันให้กับลูกน้อยอยู่ค่ะ โดยมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้

    ประกันสุขภาพเหมาจ่าย สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 1 เดือน 1 วัน ถึง 10 ปี
    ประกันที่จะช่วยคุณพ่อคุณแม่แบ่งเบาค่ารักษาพยาบาลสูงถึง 1.2 ล้านบาทต่อปี และปรับเพิ่มเป็น 2 ล้านบาทต่อปี เมื่ออายุ 11 ปีขึ้นไป มีรายละเอียดดังนี้
    คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยใน
    – กรณีเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ รวมทั้งการผ่าตัดหรือหัตถการที่ไม่ต้องนอนพักรักษาที่โรงพยาบาล
    – จ่ายตมจริงค่ายา ค่าเอ็กซเรย์ ค่าห้องแลป ค่าบริการทาง กายภาพบำบัด ค่ารถพยาบาลฉุกเฉิน ค่าผ่าตัด ค่าห้องผ่าตัด ค่าวางยาสลบ
    – ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ต่อวัน (สูงสุด 180 วันต่อรอบปีกรมธรรม์) จำนนวน 1,000 บาท
    –  ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาลประจำวัน (สูงสุด 180 วันต่อรอบปี กรมธรรม์) จำนนวน 2,000 บาท
    – ค่าห้อง ICU ต่อวัน (สูงสุด 60 วัน ต่อปี และเมื่อรวมกับ) จำนวน 4,000 บาท
    – ฯลฯ
    คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยนอก
    – จ่ายตามจริงค่ารักษาพยาบาลกรณีอุบัติเหตุฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมง
    – จ่ายตามจริงค่าล้างไต เคมีบำบัดและรังสีบำบัด
    – จ่ายตามจริงค่าเอ็กซเรย์และแลป ภายใน 30 วันก่อนเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและ/หรือภายใน 60 วันหลังออกจากโรงพยาบาล
    – ฯลฯ

    สามารถใช้บริการดูแลคุณยามพักฟื้น(Nursing Care)โดยไม่มีค่าใช้จ่าย(การบริการมีเงื่อนไข กรุณาตรวจสอบเงื่อนไขก่อนใช้บริการ)
    **Nursing Care คือบริการดูแดยามคุณพักฟื้น บริการโดยบุคลากรพยาบาลที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ครอบคลุมตั้งแต่การทำความสะอาดแผลผ่าตัดไปจนถึงการทำกายภาพบำบัด ได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องหลังออกจากโรงพยาบาลสูงสุด 7 วันต่อการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในแต่ละครั้ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สำหรับลูกค้าที่มีประกันสุขภาพตามที่กำหนดค่ะ

    ข้อมูลดังกล่าวข้างต้นนี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้นค่ะ คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องความคุ้มครอง ข้อกำหนดเงื่อนไข ข้อยกเว้นและผลประโยชน์จากกรมธรรม์ประกันภัยให้ครบถ้วน เพื่อประโยชน์ต่อตัวลูกน้อยและคุณค่ะ คุณพ่อคุณแม่สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ตัวแทนประกันอลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิตค่ะ

  • ประกันสุขภาพ ทำไมถึงเคลมไม่ได้

    ประกันสุขภาพ ทำไมถึงเคลมไม่ได้

    ประกันสุขภาพ ทำไมถึงเคลมไม่ได้

    สวัสดีค่ะ กลับมาอีกครั้งกับคำถามเกี่ยวกับเรื่องของการทำประกันสุขภาพแล้วทำไม่ถึง “เคลมไม่ได้” เฮ้อ…เคลมยาก เคลมนาน เคลมไม่ได้ มีประกันสุขภาพไม่อุ่นใจหรือไม่ได้รับความคุ้มครองอย่างที่คิด หากไม่ศึกษาข้อมูลเงื่อนไขของกรมธรรม์อย่างรายละเอียดค่ะ วันนี้เราได้รวบรวมปัจจัยสำคัญเรื่องการเคลนประกันมาฝากค่ะ มาดูรายละเอียดกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง

    – การรักษาที่เกินจำเป็น มักเกิดจากความเข้าใจผิดในเงื่อนไขการคุ้มครองของผู้ทำประกัน โดยเฉพาะผู้ป่วยในกรณีหากมีการเข้าพักรักษานอนโรงพยาบาลเกิน 6 ชั่วโมง เพื่อที่จะได้รับการคุ้มครองหรือเคลมประกันได้จากบริษัทประกัน ซึ่งความจริงแล้วในกรมธรรม์จะระบุเงื่อนไขไว้ว่า ต้องเป็นมีการรักษาที่จำเป็นในระยะเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น โดยได้รับคำวินิจฉัยหรือความเห็นจากแพทย์ เช่น กรณีที่รู้สึกปวดศีรษะเหมือนมีไข้และรีบไปโรงพยาบาลเพื่อขอนอนพักรักษาในโรงพยาบาลเกินกว่า 6 ชั่วโมง เพื่อคาดหวังให้สามารถเคลมประกันได้ เป็นต้น ดังนั้น ถ้าเราขอนอนโรงพยาบาลเองโดยไม่มีความจำเป็นหรือไม่ได้เกิดจากความเห็นของแพทย์ก็จะเคลมไม่ได้ค่ะ

    – การเจ็บป่วยในช่วงเวลาที่ไม่คุ้มครอง คือ การเจ็บป่วยก่อนการทำประกันหรือยังไม่ได้รับการคุ้มครองตามเงื่อยนไขของบริษัทประกัน ตัวอย่างเช่น เงื่อนไขของกรมธรรม์มีการระบุระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง 30 วันนับจากวันทำสัญญา หากเจ็บป่วยมาก่อนหรือเจ็บป่วยโรคที่ไม่อยู่ในเงื่อนไขความคุ้มครองตามที่กรมธรรม์ระบุไว้ ถึงแม้แพทย์จะวินิจฉัยให้นอนรักษาในโรงพยาบาลก็เคลมไม่ได้เช่นกันค่ะ

    – การเจ็บป่วยโรคร้ายแรงที่ไม่ได้ระบุไว้ในเงื่อนไขความคุ้มครอง กรณีนี้มักเกิดความเข้าใจผิดบ่อยเช่นกันค่ะ เนื่องจากหลายคนยังคงเข้าใจว่า เมื่อฉันทำประกันคุ้มครองโรคร้ายแรงต่างๆแล้ว หากฉับป่วยเป็นโรคร้ายแรงใดๆก็จะสามารถเคลมได้ค่ะ แต่เดี๋ยวกันค่ะ คำว่า โรคร้ายแรง ที่มีการระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันสุขภาพนั้นหมายถึงโรคอะไรบ้าง เช่น ประกันคุ้มครอง 30 โรคร้ายแรง ซึ่งโรคมะเร็งส่วนใหญ่มักจะเป็นโรคที่มีการระบุในกรรมธรรม์ แต่บางบริษัทอาจมีการกำหนดระยะของโรคมะเร็งด้วยค่ะ และบางโรคนั้นจะมีขั้นตอนหรือระยะที่ไม่สามารถเคลมได้ค่ะ ขึ้นอยู่กับแผนประกันนั้นค่ะ

    – การเจ็บป่วยหรือมีสาเหตุที่ระบุในข้อยกเว้นค่ะ เช่น ประกันที่คุ้มครองกรณีต้องนอนรักษาในโรงพยาบาล โดยมีข้อยกเว้นคือ การพยายามทำร้ายร่างกายตัวเอง ศัลยกรรม โรคเอดส์ หรือในบางกรณีที่หากดื่มสุราแล้วขับรถเกิดอุบัติเหตุจนต้องนอนรักษาในโรงพยาบาลก็เคลมไม่ได้ค่ะ เพราะการเกิดอุบัติเหตุเกิดจากการการดื่มสุราค่ะ

    ดังนั้น หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ต้องการความคุ้มครอง การดูแลสุขภาพหรือโรคร้ายต่างๆ ลดความเสี่ยงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล การเลือกทำประกันสุขภาพจึงจำเป็นและมีคนให้ความสนใจเป็นจำนวนมากค่ะ เพราะสามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 15 วันเป็นต้นไป เป็นผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง และปัจจัยสำคัญของการทำประกันสุขนั้นคือ การศึกษารายละเอียดให้ครบถ้วน ตรงตามต้องการทั้งการคุ้มครอง ค่าเบี้ยประกัน ฯลฯ เพราะฉะนั้นอย่ามัวรอช้าให้เกิดการเจ็บป่วยเสียก่อนหรือเป็นโรคร้ายต่างๆ ด้วยรักและความห่วงใยค่ะ

  • ลูกป่วย  RSV ทำประกันสุขภาพได้ไหม

    ลูกป่วย RSV ทำประกันสุขภาพได้ไหม

    สวัสดีค่ะ
    เนื่องจากมีคุณพ่อคุณแม่ถามเข้ามาหลายท่านเกี่ยวกับการเลือกทำประกันสุขภาพที่คุ้มครองโรค RSV ของลูกๆเยอะมาก บทความนี้เราได้รวบรวมคำถาม-ตอบเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมาฝากคุณพ่อคุณแม่ค่ะ ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรค RSV ในเด็กกันก่อนนะคะ

    โรค RSV เกิดจาการติดเชื้อไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) พบมากและเจริญเติบโตได้ดีช่วงที่มีอากาศชื้น เชื้อไวรัสนี้ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ และแพร่กระจายง่ายโดยผ่านการไอ จาม การสัมผัสสารคัดหลั่ง สิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส โรคนี้พบได้ในเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งเด็กเล็กสามารถรับเชื้อไวรัสได้ตั้งแต่แรกเกิดและเป็นช่วงวัยที่มักเกิดอาการรุนแรงและภาวะแทรกซ้อนอื่นๆได้ อาการเบื้องต้นของโรคจะมีอาการคล้ายโรคไข้หวัดทั่วไป คือ มีไข้ ปวดศีรษะ ไอ จาม น้ำมูกไหล เป็นต้น ข้อสังเกตเมื่อลูกมีการติดเชื้อที่รุนแรง โดยเชื้อไวรัส RSV แพร่กระจายไปยังทางเดินหายใจส่วนล่างและทำให้เกิดโรคปอดบวมหรือโรคหลอดลมอักเสบ มักพบอาการดังนี้ มีไข้ ไอมากจนเหนื่อยหรือไอคล้ายเสียงสุนัขเห่า หายใจลำบาก หายใจเร็วกว่าปกติ หรือหอบเหนื่อยเวลาหายใจ เบื่ออาหาร เซื่องซึม ฯลฯ คุณพ่อคุณแม่ควรรีบพาลูกพบแพทย์ทันที เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยของโรคที่ถูกต้องและรับการรักษาที่ทันท่วงทีค่ะ

    การรักษาโรค RSV จะเป็นการรักษาตามอาการ เนื่องจากยังไม่มีวัคซีนป้องกันและไม่มียารักษาโรคนี้โดยเฉพาะค่ะ ซึ่งในกรณีที่ติดเชื้อไม่รุนแรงโดยทั่วไปจะหายเป็นปกติได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ หากพบว่ามรอาการรุนแรงหรือในผู้ป่วยที่เป็นเด็กเล็ก จะต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดค่ะ ด้วยค่าใช้จ่ายในการรักษาค่อนข้างสูงจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่หลายๆท่านมองหาประกันสุขภาพให้กับลูกน้อยค่ะ

    คำถามที่พบบ่อย

    รวมคำถาม-ตอบที่คุณพ่อคุณแม่สอบถามเข้ามาค่ะ

    ถาม : สวัสดีค่ะ เนื่องจากช่วงนี้เด็กๆเป็น RSV กันเยอะ อยากทำประกันให้ลูกค่ะ แต่ไม่มีความรู้เรื่องประกันเลยค่ะ และได้หาข้อมูลมาบ้างแล้วนิดนึงค่ะซึ่งจะมี “ประกันหลัก” กับ “ประกันเสริม” คืออะไรคะ ?

    ตอบ : แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
    ประกันหลัก หรือที่เรียกว่าประกันชีวิตค่ะ จะได้ทุนประกันชีวิตกรณีเสียชีวิตด้วยสาเหตุใดก็ตามหรือครบกำหนดสัญญาค่ะ
    ประกันเสริม หรือที่เรียกว่าประกันสุขภาพค่ะ เบิกจ่ายตามการรักษาจริงเวลาเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาล และค่าชดเชยในกรณีที่เข้าโรงพยาบาลค่ะ
    หมายเหตุ : เงื่อนไขจะเป็นไปตามประกันนั้นๆค่ะ

    ถาม : ตอนนี้ลูกสาว 6 เดือนแล้วค่ะ ควรเลือกประกันแบบไหนดีคะ อยากได้ประกันที่เสียเบี้ยไม่เกิน 15,000 บาทต่อปีค่ะ ?

    ตอบ : เนื่องจากโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ หรือโรค RSV สำหรับเด็กเล็กที่เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงค่ะ ถ้าหากคุณแม่เลือกทำประกันวงเงินไม่เพียงพอหรือไม่ครอบคลุม เมื่อลูกป่วยอาจเจอกับค่าใช้จ่ายอื่นๆนอกเหนือจากประกันเพิ่มเติมค่ะ เช่น ค่าห้องในโรงพยาบาลประจำที่เข้ารับการรักษา ฯลฯ ดังนั้นควรตรวจสอบรายละเอียดก่อนการทำประกันให้ครบถ้วนค่ะ
    หมายเหตุ : โรคนี้ส่วนใหญ่หายได้เอง และมักพบอาการไม่รุนแรง หลายๆคนไม่ได้จำเป็นต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล และสามารถใช้สิทธิการรักษาในโรงพยาบาลของรัฐได้ค่ะ

    ถาม : ควรเริ่มทำประกันให้กับลูกตอนอายุเท่าไรคะ ?

    ตอบ : การเริ่มทำประกัน คุณแม่ควรเริ่มทำตั้งแต่ลูกยังไม่ป่วยนะคะ อย่ารอให้เป็นก่อนถึงคิดทำประกันค่ะ ถ้าหากมีประวัติการป่วยบ่อย โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โรคร้ายแรง ฯลฯ ส่วนใหญ่แล้วทางประกันจะไม่คุ้มครองหรือเพิ่มเบี้ยประกันขึ้น 50% ในโรคที่เด็กเคยป่วยหรือมีความเสี่ยงค่ะ

    ถาม : ควรเลือกประกันของบริษัทอะไรดีคะ ?

    ตอบ : วิธีการเลือกซื้อประกันสุขภาพให้ลูก คุณแม่ต้องพิจารณาหลายๆปัจจัยค่ะ เช่น

    • เลือกชนิดของประกัน โดยหลักๆจะมีประกันสุขภาพแบบไม่ได้รับเงินกลับคืน แต่ได้การคุ้มครองแบบสุดคุ้ม และประกันสุขภาพแบบสะสมทรัพย์ ที่จะได้รับเงินคืนเป็นเงินก้อนเมื่อครบตามระยะเวลาที่กำหนดค่ะ
    • เลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ และอย่าลืมเปรียบเทียบประกันค่ะ ศึกษารายละเอียดของกรมธรรม์ให้ดีค่ะ เพื่อให้ได้ประกันสุขภาพเด็กที่มีราคาถูกและตรงกับความต้องการมากที่สุด รวมถึงการเลือกตัวแทนของประกันร่วมด้วยค่ะ
    • การเลือกเบี้ยประกันเหมาะสมกับรายได้ เนื่องจากประกันสุขภาพเป็นการส่งเบี้ยระยะยาว ดังนั้นคุณแม่เลือกจ่ายเบี้ยประกันที่ไม่เกินจากงบที่ตั้งไว้ค่ะ

    ถาม : ลูกเคยเข้ารับการรักษา RSV ทำประกันได้ไหมคะ ซึ่งคุณหมอบอกว่าถ้ามีประวัติการป่วยของโรคนี้ ทางบริษัทประกันจะไม่คุ้มครองเรื่องโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจค่ะ ?

    ตอบ : สามารถทำประกันได้ค่ะคุณแม่ แต่จะไม่คุ้มครองโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจค่ะ เนื่องจากเด็กที่เคยเข้ารับการรักษาโรค RSV จะป่วยค่อนข้างบ่อย จึงเป็นสาเหตุให้ไม่มีการคุ้มครองในโรคดังกล่าวค่ะ

    จากที่กล่าวมาข้างต้นนั้น และในปัจจุบันนี้มีเชื้อโรค ไวรัส หรือแบคทีเรียหลากหลายและมีการพัฒนากลายสายพันธ์ของโรคต่างๆ ทำให้เด็กๆมีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในเด็กเล็กยและเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย เพราะระบบภูมิคุ้มกันต่อโรคต่างๆยังไม่สมบูรณ์ค่ะ ดังนั้นการเลือกทำประกันสุขภาพจึงมีความจำเป็นมาก นับเป็นสิ่งที่สามารถช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายในยามที่ลูกน้อยต้องนอนโรงพยาบาลได้เป็นอย่างดีค่ะ เนื่องจากการรักษาในแต่ละครั้งของหลายๆโรคมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงค่ะ