ลูกแพ้เหงือ

ลูกแพ้เหงื่อตัวเอง รับมืออย่างไร

อาการแพ้เหงื่อตัวเอง เป็นโรคภูมิแพ้ชนิดหนึ่งที่ร่างกายหรือผิวหนังก่อปฏิกิริยากับเหงื่อ โดยอาการแพ้มักจะแสดงอาการออกมาในรูปผื่นคันหรืออาการแดงที่ผิวหนังตามร่างกาย ซึ่งเป็นโรคหนึ่งที่พบบ่อยในเด็กค่ะ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาหรืออุปสรรคในการทำกิจกรรมต่างๆ และอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับลูกๆมักจะสร้างความกังวลให้กับคุณพ่อคุณแม่เสมอ ดังนั้นวิธีการดูแลและป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญค่ะ แต่เราจะมีวิธีรับมืออาการแพ้เหงื่อตัวเองอย่างไร บทความนี้มีคำตอบค่ะ

อาการแพ้เหงื่อตัวเองเกิดขึ้นเมื่อร่างกายตอบสนองต่อความร้อนชื้นเมื่อเหงื่อออกผื่นความร้อนมักปรากฏขึ้นมาค่ะ และสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงวัยค่ะ แต่มักพบได้ในเด็กเล็กเนื่องจากเด็กมีต่อมน้ำเหงื่อที่เล็กกว่าและไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิร่างกายของพวกเขาได้ จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดผดผื่นมากกว่าผู้ใหญ่ค่ะ ซึ่งปัจจัยที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้เหงื่อในเด็กได้แก่ ประวัติภายในครอบครัวเป็นภูมิแพ้แบบต่างๆ เช่น แพ้ฝุ่น แพ้อากาศ ไข้ละอองฟางหรือหอบหืด เป็นต้น เป็น ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ผิวหนัง ผิวบอบบางง่ายต่อการแพ้ค่ะ

อาการแพ้เหงื่อของตัวเองในเด็กโดยมักแสดงมีอาการผื่นแดง คันหรืออักเสบตามส่วนต่างๆของร่างกายในเวลาที่มีเหงื่อออกค่ะ เช่น เด็กในช่วงอายุ 2 เดือน ถึง 2 ปี มักมีอาการผิวแห้ง มีผื่นแดงหรือผิวหนังอักเสบบริเวณแก้ม หน้าผาก ซึ่งเกิดจากการเสียดสีกับที่นอน หมอน เสื้อผ้า ฯลฯ เด็กในช่วงอายุ 4 ถึง 10 ปี มักมีอาการผิวแห้ง ผื่นแดงบริเวณข้อพับต่างๆโดยเฉพาะตามจุดที่มีเหงื่อออกมาก เช่น ข้อพับแขน ข้อพับหัวเข่า คอ หรือข้อเท้า เป็นต้น และอายุ 12 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่มักจะมีอาการผิวแห้ง คันและแพ้ง่ายค่ะ

วิธีดูแลป้องกันการแพ้เหงื่อในเด็ก

เนื่องจากอาการแพ้เหงื่อตัวเองคือโรคภูมิแพ้ผิวหนังชนิดหนัง ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ค่ะและไม่ใช่โรคติดต่อร้ายแรงค่ะ แต่ก็สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ค่ะ ดังนั้นการดูแลป้องกันอาการแพ้จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับลูกของคุณค่ะ เพื่อลดและบรรเทาอาการแพ้ค่ะ อาทิเช่น 

  • การหลีกเลี่ยงการทำกรรมกลางแจ้งหรือที่มีอาการร้อนจัด 
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก หรืออาบน้ำทันทีหลังทำกิจกรรม
  • อาบน้ำ ให้สะอาดหลังทำกิจกรรมที่ต้องเสียเหงื่อ หรือในวันที่มีอาการร้อนอบอ้าว
  • ไม่อาบน้ำร้อนหรือเปิดแอร์เย็นจัด ซึ่งจะทำให้ผิวแห้งแตกได้ค่ะ
  • ทำความสะอาดที่นอนและเครื่องนอนเสมอ เพื่อขจัดและป้องกันไรฝุ่น
  • การทำยาแก้ผดผื่น เช่น คาลาไมน์ ฯลฯ