Category: ประกันสุขภาพเด็ก

  • รวมประกันภัยคุ้มครองการติดไวรัสโคโรนา (Covid-19)

    รวมประกันภัยคุ้มครองการติดไวรัสโคโรนา (Covid-19)

    ไวรัสโคโรนา(coronavirus) หรือโควิด-19 (COVID-19) ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปค่ะ เนื่องจากมีการแพร่ระบาดในหลายๆประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงในประเทศไทยและเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นแม้ว่ากระทรวงสาธารณสุขจะมีมาตรการการป้องกันค่ะ เพราะเป็นโรคติดต่อที่สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ง่าย อีกทั้งผู้ป่วยที่มีเชื้อไวรัสดังกล่าวไม่ทราบว่าตนติดเชื้อไวรัสโคโรนา เพราะในระยะแรกของการป่วยไม่พบอาการรุนแรงจึงเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมได้ค่ะ ดังนั้นการดูแลตัวเองให้แข็งแรงหรือการป้องกันการติดเชื้อเบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่หน้ากากอนามัยในสถานที่ชุมชนหรือพื้นที่สุ่มเสี่ยง การล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอหรือการรับประทานอาหารปรุงสุก อาจจะไม่เพียงพอแล้วค่ะ นอกจากนี้เรายังสามารถดูแลคุ้มครองตัวเองและคนที่รักได้จากการซื้อประกันคุ้มครองการติดเชื้อไวรัสโควิด-19โดยเฉพาะค่ะ ซึ่งวันนี้เรารวบรวมประกันภัยคุ้มครองโดยเฉพาะหากติดเชื้อไว้รัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่สามารถเลือกความคุ้มครองได้เองค่ะ

    ประกันภัยไวรัสโคโรนาจะมีรูปแบบที่แตกต่างกันไปในแต่ละบริษัทประกันภัยค่ะ บางบริษัทอาจจะคุ้มครองในเรื่องของการรักษาพยาบาลหรือคุ้มครองเรื่องของรายได้ ซึ่งคุณสามารถเลือกได้เองตามความต้องการค่ะ แถมเบี้ยประกันเริ่มต้นแค่หลักร้อยเท่านั้นแต่จะมีบริษัทไหนบ้างที่น่าสนใจมาดูกันเลยจ้า

    ทิพยประกันภัย

    ทิพยประกันภัย

    ประกันภัยส่วนบุคคลคุ้มครองการติดเชื้อไวรัสโคโรนา คุ้มครองต่อเนื่องจนระยะสุดท้ายชดเชยสูงสุด 1,000,000 บาท ผู้เอาประกันภัยอายุระหว่าง 1 ปี – 99 ปี(ณ วันที่ทำประกันภัย) ระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปีนับตั้งแต่วันเริ่มความคุ้มครอง โดยแบ่งเป็น 4 แผนประกันภัยดังนี้

    • แผนที่ 1 (ค่าเบี้ยประกันปีละ 150 บาท) คุ้มครองชีวิตและสุขภาพ
      • ค่าชดเชยการเจ็บป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาระยะสุดท้าย 100,000 บาท
      • ค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรมา ทั้งกรณีผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก 10,000 บาทต่อปี
    • แผนที่ 2  (ค่าเบี้ยประกันปีละ 250 บาท)
      • ค่าชดเชยการเจ็บป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาระยะสุดท้าย 100,000 บาท
      • ค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรมา ทั้งกรณีผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก 50,000 บาทต่อปี
    • แผนที่ 3 (ค่าเบี้ยประกันปีละ 450 บาท)
      • ค่าชดเชยการเจ็บป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาระยะสุดท้าย 500,000 บาท
      • ค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรมา ทั้งกรณีผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก 50,000 บาทต่อปี
    • แผนที่ 4 (ค่าเบี้ยประกันปีละ 850 บาท)
      • ค่าชดเชยการเจ็บป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาระยะสุดท้าย 1,000,000 บาท
      • ค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรมา ทั้งกรณีผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก 100,000 บาทต่อปี

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1736 www.tipinsure.com

    สินมั่นคงประกันภัย

    สินมั่นคงประกันภัย

    ประกันภัยไวรัสโคโรนา “เจอ จ่าย จบ” คุ้มครองสูงสุดถึง 100,000 บาท เมื่อตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19 รับเงินชดเชยทันที ผู้เอาประกันภัยอายุระหว่าง 1 ปี – 99 ปี โดยแบ่งเป็น 2 แผนประกันภัยดังนี้

    • แผนที่ 1 (ค่าเบี้ยประกันปีละ 250 บาท)
      • ตรวจพบการติดเชื้อไวรัสโคโรนารับเงินก้อน 50,000 บาท
    • แผนที่ 2 (ค่าเบี้ยประกันปีละ 450 บาท)
      • ตรวจพบการติดเชื้อไวรัสโคโรนารับเงินก้อน 100,000 บาท

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2378-7000 www.smk.co.th

    AIA

    บริษัท เอไอเอ ประเทศ เพิ่มคุ้มครองแบบฟรีๆสำหรับผู้ถือกรรมธรรม์ของเอไอเอทุกประเภท ทั้งกรณีที่ติดเชื้อหรือเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ใดๆ เพราะผู้ถือกรมธรรม์จะได้รับความคุ้มครองโดยอัตโนมัติไปเลยจ้า คุ้มครองตั้งแต่วันนี้ ถึง 15 เมษายน 2563 รายละเอียดความคุ้มครองดังนี้

    • เมื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยในจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 1,000 บาทต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 30 วัน หรือ 30,000 บาท
    • กรณีเสียชีวิตเนื่องจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 รับเงินจำนวน 50,000 บาท

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1581 (ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง)

    ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ (TQM) ร่วมกับ บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) 

    ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ (TQM) ร่วมกับ บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) 

    ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลและประกันสุขภาพเฉพาะโรค “เจอจ่ายจบ” เบี้ยประกันภัย 299 บาทต่อปี ผู้เอาประกันภัยอายุระหว่าง 1 ปี – 70 ปี กรณีตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโรโรนารับ 50,000 บาท คุ้มครองกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวรจากอุบัติเหตุ(อบ.1) 100,000 บาทค่ะ

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1737 (https://www.tqm.co.th/promotion/coronavirus_insure)

    เงื่อนไขและความคุ้มครองเป็นไปตามที่กรมธรรม์ของแต่ละบริษัทประกันภัยกำหนด ควรศึกษาข้อมูลก่อนการซื้อประกันทุกครั้งค่ะ

  • 8 บริษัทประกัน กับแผนประกันสุขภาพสำหรับเด็ก ปี 2562

    8 บริษัทประกัน กับแผนประกันสุขภาพสำหรับเด็ก ปี 2562

    การซื้อประกันสุขภาพให้ลูก ในปัจจุบันนับว่าจำเป็นสำหรับครอบครัวค่ะ เนื่องจากเด็กเล็กมีภูมิต้านทานน้อยเสี่ยงติดเชื้อได้ง่าย และการเจ็บป่วยของลูกน้อยมักตามมาด้วยค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เพราะโรคบางอย่างมีการพัฒนาสายพันธ์และทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะโรคที่พบบ่อยในเด็ก เช่น โรคมือ เท้า ปาก ไวรัสRSV ท้องร่วงจากไวรัสโรต้า โรคไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม เป็นต้น

    ข้อดีการทำประกัน

    ดังนั้น ข้อดีของการทำประกันให้ลูกน้อยคือ สร้างความอุ่นใจในเรื่องค่ารักษาพยาบาล ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายเมื่อลูกต้องนอนโรงพยาบาล เพราะค่ารักษาที่ค่อนข้างสูงโดยที่คุณไม่ต้องสำรองจ่าย เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าแพทย์ ค่าห้อง และอื่นๆ รวมถึงเป็นการเพิ่มโอกาสหายป่วยเร็วขึ้น เลือกสถานพยาบาลในการเข้ารักษาได้มากขึ้น เพราะถ้าหากไม่มีประกันสุขภาพคุณอาจลังเลการพาลูกไปหาหมอ หรือให้ลูกทานยาที่มีไปก่อนรอดูอาการ กว่าจะตัดสินใจพาไปหาหมอ ลูกอาจจะป่วยหนักหรือรักษายากขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลาในการรักษานานขึ้นและเสียค่าใช้ง่ายมากขึ้น แต่จะทำประกันสุขภาพให้ลูกที่ไหนดี แลัในบทความนี้เรามีตัวอย่างแผนประกันปี 2562 เพื่อเป็นแนวทางการเลือกที่เหมาะกับคุณและลูกมาฝากค่ะ

    แผนประกัน

    ประกันสุขภาพเด็ก ตัวอย่างแผนประกันปี 2562 

    อลิอันซ์ ประกันภัยประกันอลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต

    ประกันสุขภาพเด็กเหมาจ่าย เด็กตั้งแต่อายุ 1 เดือน 1 วันถึง 10 ปี (ต่อได้ถึงอายุ 84 ปี) ค่ารักษาพยาบาลสูงถึง 1.2 ล้านบาทต่อปี ให้ลูกรักของคุณได้รับการรักษาดีที่สุด คุณพ่อคุณแม่สบายใจ หมดห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย (ซื้อควบคู่กับสัญญาหลักตามกฎเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด)

    – วงเงินความคุ้มครองสูงถึง 1.2 ล้านบาทต่อปี เมื่อผู้เอาประกันภัยอายุครบ 11 ปี ขึ้นไป สามารถต่ออายุกรมธรรม์ได้โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพใหม่ และความคุ้มครองปรับเพิ่มเป็น 2 ล้านบาทต่อปี 

    – ค่าแพทย์ตรวจรักษาประจำวัน 2,000 บาทต่อวัน

    – ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาล สูงสุด 3,000 บาทต่อวัน

    – ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาล ห้องผู้ป่วยหนัก ICU สูงสุด 6,000 บาทต่อวัน

    – ค่ายากลับบ้าน (ไม่เกิน 7 วัน ต่อการเข้ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลแต่ละครั้ง) 1,500 บาท

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.1373

    *****************

    ประกันเอไอเอ (AIA H&S Extra)

    ประกันสุขภาพเด็กอายุ 1 เดือน ถึง 5 ปี สร้างหลักประกันให้ลูกเพื่ออนาคตที่ดี

    – ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาล สูงสุด 6,500 บาทต่อวัน (ห้อง ICU ชดเชยเพิ่มเป็น 2 เท่า)

    – ค่าแพทย์ผ่าตัดและหัตถการ สูงสุด 120,000 บาท

    – ค่าแพทย์ตรวจรักษาประจำวัน 1,200 บาท

    – ค่ารักษาพยาบาลอื่นๆสูงสุด 40,000 บาท

    – ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินขณะเป็นผู้ป่วยนอก (เนื่องจากอุบัติเหตุ) 7,000 บาท

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.1581

    *****************

    ไทยประกันชีวิต

    ไทยประกันชีวิต

    เพื่อลูกสุดรักแบบประกันที่ให้คุ้มครองรอบด้าน เพื่อลูกสุดรักของคุณ

    – ลูกเจ็บป่วย นอนโรงพยาบาล จากโรคอื่นๆ รับเงินรับเงินชดเชยสูงสุด วันละ 2,000 บาท

    – นอนโรงพยาบาลจาก 5 โรคพบบ่อยในเด็กได้แก่ โรคมือเท้าปาก,โรคปอดบวมหรือปอดอักเสบ, โรคอาหารเป็นพิษ, โรคบาดทะยัก และโรคไข้สมองอักเสบจากเชื้อไวรัส รับเงินชดเชยสูงสุดวันละ 4,000 บาท

    – อุบัติเหตุเล็กหรือใหญ่ ไม่ต้องสำรองจ่าย รักษาพยาบาลสูงสุดครั้งละ 100,000 บาทต่อครั้ง

    – รับเงินคืนเพื่อเป็นของขวัญให้ลูก ตลอดสัญญาสูงสุดถึง 700,000 บาท

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.02-201-4557

    *****************

    กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต 

    แบบประกันสุขภาพสำเร็จรูป iKid อายุรับประกันภัย 1 เดือน – 15 ปี ต่อสัญญาได้ถึงอายุ 21 ปี เพื่อก้าวแรกสู่ความสำเร็จของลูกน้อย ให้เจ้าตัวน้อยเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป

    – ความคุ้มครองการสูญเสียชีวิต (ทุกกรณี) ตามจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ผู้ขอเอาประกันภัยเลือก (ขั้นต่ำ 1,000,000 บาท)

    – คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในแบบเหมาจ่ายสูงสุดรวมทุกความคุ้มครองไม่เกิน 6,000,000 บาทต่อปี

    – ดูแลรักษาด้วยผลประโยชน์ผู้ป่วยนอก(OPD) 35,000 บาท ต่อปี (และไม่เกินผลประโยชน์รวมสูงสุดต่อปี)

    – รับเงินจ่ายคืนประจำปีตั้งแต่สิ้นปีที่ 2 จนครบสัญญา และครบกำหนดสัญญา (อายุครบ 90 ปี) รับ 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ณ วันครบกำหนดสัญญา

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.1159

    *****************

    เมืองไทยประกันชีวิต

    เมืองไทยประกันชีวิต

    เมืองไทย สมาร์ท โพรเทคชั่น 99/20 สร้างหลักประกันเงินล้านให้ครอบครัวได้ง่าย ๆ คุ้มครองชีวิต 100% ยาวไปจนถึงครบอายุ 99 ปี จ่ายเบี้ยเบา ๆ ไม่แพง 

    – อายุรับประกันภัย 30 วัน – 70 ปี ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย 20 ปี

    – ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาล สูงสุด 4,000 บาทต่อวัน

    – ค่าแพทย์ผ่าตัดและหัตถการ สูงสุด 90,000 บาท

    – ค่ารักษาพยาบาลทั่วไปต่อครั้ง สูงสุด 30,000 บาท

    – ค่าแพทย์ตรวจรักษาต่อครั้ง 1,000 บาท

    – ค่าเบี้ยโดยเฉลี่ย ปีละ 21,500 ถึงอายุ 5 ปี หลังจาก 6 ปีขึ้นไปเบี้ยจะลดลง

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.1766

    *****************

    ประกันเอ็ทน่า อินเตอร์เนชั่นแนล

    ประกันเอ็ทน่า อินเตอร์เนชั่นแนล (Aetna Health Insurance)

    ประกันแผนโอปอล หมดกังวลกับภาระค่ารักษาพยาบาลทั้งการเจ็บป่วย และอุบัติเหตุ ด้วยความคุ้มครองสูง จ่ายเบี้ยประกันแบบเบาๆสบายกระเป๋า

    – อายุรับประกันภัย 15 วัน – 65 ปี

    – ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาล สูงสุด 4,000 บาทต่อวัน (ห้อง ICU ชดเชยเพิ่มเป็น 2 เท่า)

    – การปลูกถ่ายไขกระดูก การเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ การฟอกไต (สูงสุดต่อการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยแต่ละครั้ง) สูงสุด 10,000 บาท

    – ความคุ้มครอง กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะสายตา การรับฟังเสียง การพูดออกเสียง และทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง (คุ้มครองการขับขี่หรือโดยสารจักรยานยนต์ 50% ของทุนประกันภัย) 100,000 บาท

    – ค่ารถพยาบาล (สูงสุดต่อเที่ยว) 1,000 บาท

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2232 8555

    *****************

    ประกันไทยสมุทรประกันชีวิต

    รักจัดเต็ม สบายใจเรื่องค่ารักษา ไม่ต้องสำรองค่าใช้จ่ายเมื่อเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเครือข่าย (ในฐานะผู้ป่วยใน) คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินขณะเป็นผู้ป่วยนอก สบายใจ เคลมง่าย ไม่ยุ่งยาก

    – อายุรับประกันภัย 1 เดือน 1 วันถึง 64 ปี ต่อสัญญาได้ถึงอายุ 69 ปี สิ้นสุดสัญญาเมื่ออายุครบ 70 ปี

    – ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาล สูงสุด 5,000 บาทต่อวัน

    – ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาล ห้องผู้ป่วยหนัก ICU (สูงสุด 10,000 บาทต่อวัน)

    – ค่าแพทย์ผ่าตัดและหัตถการ สูงสุด 120,000

    – ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินขณะเป็นผู้ป่วยนอก (เนื่องจากอุบัติเหตุ) สูงสุด 10,000 บาท

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2207-8888

    *****************

    เอฟดับบลิวดี เอ็กซ์พีเรียนส์ แฟมิลี่แคร์

    เจ็บป่วยเมื่อไรก็อุ่นใจ ไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น เตรียมพร้อมสำหรับวันนี้ สนุกกับชีวิตได้เต็มที่ทั้งคุณและครอบครัว

    – นอนโรงพยาบาลเบิกค่ารักษาได้สูงสุด 25,000 บาทต่อครั้ง สูงสุด 50,000 บาทต่อปี

    – เบิกค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอกได้ 1,000 บาทต่อครั้ง สูงสุด 30 ครั้งต่อปี

    – เข้ารับการรักษาโดยไม่ต้องสำรองจ่าย ด้วยบัตรเอฟดับบลิวดี แคร์การ์ด ในโรงพยาบาลและคลินิกในเครือข่ายกว่า 380 แห่งทั่วประเทศ

    – รับส่วนลดเบี้ยประกันภัย 25% เมื่อสมาชิกในครอบครัวซื้อความคุ้มครองพร้อมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1351

    *****************

    ประกัน

    แผนประกันข้างต้นนี่เป็นเพียงรายละเอียดคร่าวๆที่น่าสนใจเท่านั้นค่ะ ซึ่งแต่ละบริษัทยังมีแผนประกันให้เลือกอีกหลายแผนตามความต้องการค่ะ และที่สำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ควรศึกษาแผนประกันแต่ละแบบอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อค่ะ เพื่อประโยชน์ของคุณและลูกรัก

    ประกันเด็ก

  • ทำไมต้องประกันสุขภาพเด็ก

    ทำไมต้องประกันสุขภาพเด็ก

    ทำไมต้องประกันสุขภาพเด็ก

    การดูแลสุขภาพลูกเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นความสุขของพ่อแม่ที่เห็นลูกน้อยเติบโต พร้อมสุขภาพที่แข็งแรงเพื่อพัฒนาการในการเจริญเติบโตสมวัย และการเรียนรู้อย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้น คุณพ่อคุณคุณแม่จึงให้ความสำคัญต่อการดูแลใส่ใจลูกน้อยตั้งแต่เป็นทารกในครรภ์ ทั้งเรื่องของอาหารและสุขภาพที่ดีของลูก แต่ถึงอย่างไรก็ตามการเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นกับใครเมื่อไร และด้วยโรคภัยไข้เจ็บที่มีการติดต่อกันง่าย เชื้อโรคต่างๆที่มีการพัฒนาสายพันธ์ใหม่ และค่ารักษาพยายามสำหรับเด็กที่ค่อนข้างสูงค่ะ การทำประกันสำหรับเด็กจึงมีความสำคัญต่อตัวลูกน้อย ซึ่งหลายๆครอบครับอาจมองว่าเป็นการสิ้นเปลืองหรือเปล่า ในเมื่อก็มีสิทธิในการเข้ารักษาในโรงพยาบาลของรัฐอยู่แล้ว ดังนั้น วันนี้เราพูดถึงข้อดีของการทำประกันเด็ก ว่าทำไมเด็กถึงคุณพ่อคุณแม่ต้องมองหาการประกันสุขภาพสำหรับลูกน้อยค่ะ สรุปได้ดังนี้

    เด็กมีแนวโน้มที่จะเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บมากกว่าผู้ใหญ่
    เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของเด็ก ระบบการทำงานของร่างกายยังไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้เจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะวัยอนุบาล แม้แต่ความเจ็บป่วยเล็กน้อยก็สามารถคุกคามสุขภาพของเด็กๆได้ เช่น การติดเชื้อที่หูอาจนำไปสู่การสูญเสียการได้ยินหากไม่ได้ กระดูกของเด็กยังมีความเปราะบางกว่าผู้ใหญ่ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการแตกหักได้ง่าย เป็นต้น หลายๆท่านอาจจะคิดว่า ไม่เป็นอะไรมากหรอก เพราะร่างกายของเด็กเป็นวัยกำลังเจริญเติบโต จึงมีความยืดหยุ่นสูงการเจ็บป่วยมักฟื้นฟูได้เร็วกว่าผู้ใหญ่ แต่อันที่จริงแล้วไม่ว่าในช่วงวัยไหนหากไม่เข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม ย่อมส่งผลกระทบต่างๆตามมาได้เช่นกันค่ะ ซึ่งอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

    การดูแลขณะเจ็บป่วย
    ในกรณีที่ลูกน้อยเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งหากลูกมีประกันสุขภาพจะช่วยให้คุณแม่หมดกังวลในการเลือกสถานพยาบาลที่จะเข้าใช้บริการ และสถานพยาบาลที่คุณแม่ไว้วางใจว่าดีที่สุด มั่นใจว่าลูกจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุด ช่วยลดภาระในเรื่องของค่าใช้จ่ายต่างๆในขณะเข้ารับการรักษาค่ะ

    ความคุ้มครอง
    ในเรื่องของความคุ้มครองจะมีความแตกต่างกันค่ะ ขึ้นอยู่กับความคุ้มของประกันที่คุณพ่อคุณแม่เลือกทำเอาไว้ ซึ่งโดยทั่วไปมักจะเลือกจากโรคที่มีการแพร่ระบาดในเด็ก ติดต่อกันได้ง่าย เช่น โรคมือเท้าปาก โรคไขหวัดใหญ่ โรคท้องร่วง เป็นต้น และป้องกันการเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อยที่อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงได้ค่ะ เพราะในบางครั้งคุณพ่อคุณแม่อาจคิดว่าไม่เป็นอะไรมาก หรืออาจจะกังวลในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการรักษา หลายครอบครัวอาจรักษาเด็กๆด้วยการรักษาอาการเบื้องต้นที่พบ ซึ่งในบางโรคนั้นหากทำการรักษาไม่ถูกต้องอาจส่งผลร้ายได้ค่ะ

    เพราะสุขภาพของลูกรอไม่ได้ค่ะ ซึ่งการดูแลจากคุณพ่อคุณแม่อาจไม่เพียงพอ เพราะการเจ็บป่วยสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลาและทุกคนค่ะ การทำประกันสุขภาพเด็กจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยดูแลเด็กๆและลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ปัจจุบันการทำประกันให้กับลูกไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจยากอย่างที่คิด และมีให้เลือกหลายแพคเกจที่เหมาะกับความต้องการของคุณค่ะ ที่สำคัญต้องเหมาะความสามารถในการจ่างเบี้ยประกันค่ะ เพราะการทำประกันสุขภาพนั้นเป็นการจ่ายเบี้ยระยะยาวค่ะ สำหรับตัวแม่เองก็เลือกที่จะทำประกันสุขภาพให้กับลูกเช่นกันค่ะ เพราะสุขภาพของลูกเป็นสิ่งสำคัญ

  • ประกันสุขภาพลูกรัก

    ประกันสุขภาพลูกรัก

    ประกันสุขภาพลูกรัก เพื่อความคุ้มครองเป็นหลักประกันให้กับคนที่คุณรัก เพราะสุขภาพของลูกเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเด็กวัยแรกเกิดถึง 5 ปี เป็นช่วงวัยของร่างกายการเจริญเติบโต การพัฒนาการและการเรียนรู้สิ่งต่างๆ และเป็นช่วงวัยที่มีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากเป็นวัยของการเรียนรู้ อาจหยิบจับหรือสัมผัสสิ่งของปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าปาก ฯลฯ และระบบภูมิต้านทานโรคยังไม่สมบูรณ์เหมือนกับผู้ใหญ่ค่ะ นอกจากนี้ค่ารักษาพยาบาลในปัจจุบันซึ่งค่อนข้างสูง ไหนจะค่าใช้จ่ายประจำของลูก ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่านม ค่าเทอม ค่าเสื้อผ้า ค่าของเล่น ฯลฯ ค่าเทอม แล้วยังมีค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษาพยาบาลโรคต่างๆ อย่าให้ความกังวลของคุณพ่อคุณแม่เป็นอุปสรรคในการเรียนรู้ของเด็กๆ จะกว่าไหมหากเราสามารถวางแผนการคุ้มครองเรื่องสุขภาพของลูกได้ เมื่อลูกเจ็บป่วยจะได้รับการรักษาที่ดีที่สุด โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องลังเลที่จะเลือกโรงพยาบาลทีจะเข้ารับการรักษาและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของคุณพ่อคุณแม่ ดังนั้นการทำประกันให้กับลูกจึงเป็นอีกทางเลือกที่จะช่วยคุณพ่อคุณแม่คลายกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลลูกน้อย ซึ่งบางแผนประกันนอกจากจะคุ้มครองในเรื่องของสุขภาพและอุบัติเหตุต่างๆแล้ว คุณพ่อคุณแม่สามารถซื้อแผนประกันชีวิตหลักคู่กันได้ค่ะ เพื่อเป็นเงินออมให้แก่ลูกในอนาคตได้อีกด้วยค่ะ

    ตัวอย่างประกันสุขภาพเด็ก
    การประกันสุขภาพเด็กจากอาคเนย์ประกันภัย ดูแลคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและวางแผนชีวิตให้ลูกรักของคุณ แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลไม่ต้องสำรองจ่าย เช่น

    • ค่าห้องนอน ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาลต่อวัน (สูงสุดไม่เกิน 90 วัน ต่อครั้ง/โรค)
    • รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนเกินให้อีก 90% ในความคุ้มครองอื่นๆ ยกเว้นค่าห้องค่าอาหาร จะรับผิดชอบให้ตามตารางผลประโยชน์
    • ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน ขณะเป็นผู้ป่วยนอกเนื่องจากอุบัติเหตุ
    • ครอบคลุม ค่ารถพยาบาลฉุกเฉิน ค่าผ่าตัด ค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ
      ในโรงพยาบาล เป็นต้น
    • เบี้ยประกันอายุ 0-5 ปี เบี้ยประกันแผนดีที่สุด 13,xxx บาทต่อปี
    • ซื้อได้เลยไม่ต้องพ่วง เงื่อนไขไม่ยุ่งยาก
    • ฯลฯ

    หมายเหตุ ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดและเงื่อนไขก่อนการตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง (เงื่อนไขและข้อยกเว้นเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์)

    จากที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงตัวอย่างที่ทางเราได้นำมาเป็นตัวอย่างเท่านั้น และยังมีอีกหลายบริษัทประกันที่มีแผนประกันสำหรับเด็ก โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกทำประกันให้กับลูกๆตามความต้องการ รายละเอียดสามารถสอบถามได้จากตัวแทนประกันจากบริษัทที่คุณให้ความสนใจค่ะ เพราะอนาคตของลูกเป็นสิ่งสำคัญ ทักษะการเรียนรู้ที่ดีของลูกมาพร้อมกับสุขภาพที่ดี อย่าให้ความกังวลของคุณพ่อคุณแม่เป็นอุปสรรคในการเรียนรู้ของลูกค่ะ

  • ประกันสุขภาพเด็ก ค่าห้องแยกค่าใช้จ่าย

    ประกันสุขภาพเด็ก ค่าห้องแยกค่าใช้จ่าย

    ประกันสุขภาพเด็ก ค่าห้องแยกค่าใช้จ่าย
    สวัสดีค่ะ คุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน วันนี่เราจะมาแนะนำแผนประกันสำหรับลูกน้อย(ค่าห้องแบบแยกค่าใช้จ่าย) สุดคุ้มที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาลได้มากเมื่อ เทียบกับเบี้ยประกันที่เข้าถึงได้ ถ้ามีการจัดแผนดีๆได้รับผลประโยชน์เกือบเท่าเหมาจ่าย แต่จ่ายเบี้ยประกันแค่ประมาณสองถึงสี่หมื่นบาทต่อปีค่ะ
    เพราะสุขภาพลูกๆเป็นสิ่งสำคัญและสร้างความกังวลใจให้กับคุณพ่อคุณแม่ทุกครั้งที่ลูกเจ็บป่วยถึงแม้ว่าบางครั้งอาจเป็นการเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อยก็ตาม เนื่องจากปัญหาสุขภาพเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือคาดเดาได้ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่มีอากาศป่วยได้ง่ายประกอบกับในปัจจุบันเชื้อโรค เชื้อไวรัส หรือแบคทีเรียที่มีการพัฒนาสายพันธ์ เกิดโรคใหม่ๆขึ้นมาค่ะ ซึ่งแน่นอนนอนว่าสิ่งที่ตามมาก็คือภาระค่าใช้จ่ายค่ะ จะดีกว่าไหมถ้าคุณพ่อคุณแม่วางแผนการใช้จ่ายเกี่ยวกับสุขภาพของลูกส่วนหนึ่ง ด้วยการซื้อประกันสุขภาพให้ลูก วันนี้เราได้นำข้อมูลดีๆเกี่ยวกับแผนประกันเด็ก(ค่าห้องแบบแยกค่าใช้จ่าย)จากแม่มณีมาฝาก โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้

    กลุ่มที่หนึ่ง คือ กลุ่มหลับตาจิ้ม ซื้อง่ายไม่ต้องใช้ไอคิว จากบริษัท เอจามเอ และ กรุงเทยอ้าซ่า

    กลุ่มหลับตาจิ้ม ซื้อง่ายไม่ต้องใช้ไอคิว ค่ะ เป็นแผนประกันที่ทั้ง 2 บริษัท หยิบยกมาเป็นเซต ไม่มีความซับซ้อน รวมเบ็ดเสร็จ ซื้อง่ายค่ะ มาดูความข้อมูลกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง

    • เอจามเอ กับแผนค่าห้องใหม่ที่มีชื่อว่า H&S แบบพิเศษ ใส่ไข่ มาพร้อมกับการขายค่าห้องสำหรับเด็กๆถึง 6,500 บาทต่อคืน เพิ่มความพิเศษด้วยการเพิ่มวงเงินผู้ป่วยนอก(OPD)ต่อปี โดยเริ่มตั้งแต่ 4,000 – 9,000 บาทต่อปี (ต่อปีนะคะไม่ใช่ต่อครั้ง) ในกรณีที่เด็กๆ ป่วยบ่อยๆก็ต้องจ่ายเพิ่มเองเหมือนกันค่ะ นอกจากนั้นยังมีวงเงินสำหรับค่าคีโม ค่าฉายแสง ค่าล้างไต และค่ารักษาผู้ป่วยนอกกรณีทั่วไปแบบต่อปี ซึ่งอันนี้น่าจะไม่ได้ใช้กันในเด็กเท่าไหร่ ซึ่งความพิเศษใส่ไข้ของเอจามเอที่ไม่เคยใจถึงขนาดนี้มาก่อน ในส่วนของเบี้ยประกันอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ถูกไม่แพงแต่ก็แรงเอาเรื่องตามในตารางค่ะ
    • กรุงเทยอ้าซ่า จากเดิมที่เคยจ่ายค่ารักษาพยาบาลอื่นๆและค่าธรรมเนียมผ่าตัดส่วนเกินสิทธิ์ 70% แผนประกันในครั้งนี้กรุงเทยอ้าซ่าจ่ายส่วนเกินสิทธิ์เฉพาะค่าธรรมเนียมผ่าตัดเท่านั้น ยกเว้นกรณีที่มีการผ่าตัดหรือเป็น 70 โรคร้ายแรงที่กำหนด ถึงจะจ่ายส่วนเกินค่าใช้จ่ายอื่นๆให้อีก 70% จากแผนประกันใหม่นี้สะท้อนให้เห็นว่ากรุงเทยอ้าซ่าไม่กล้าจะจ่ายส่วนเกิน 70% ให้กับค่ารักษาพยาบาลอื่นๆเหมือนเก่า แถมยังให้เราต้องซื้อควบกับสัญญาหลักทุนประกันค่อนข้างสูง ทำให้เบี้ยประกันรวมที่ต้องจ่ายจริงสูงเพียงจะซื้อค่าห้องแค่ 2,500 บาท เบี้ยประกันก็ปาเข้าไปสามหมื่นปลายๆแล้วค่ะ

    กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มรีควาย ไอเดีย เป็นแผนประกันที่มีความซับซ้อนนิดนึงในการผสมแบบเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ที่มากกว่าค่าห้องแยกค่าใช้จ่ายธรรมดาค่ะ กลุ่มนี้มี 2 บริษัท คือ เมืองเทย และ อาคะเนค่ะ เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการความคุ้มครองเพียงพอสำหรับลูกนอนโรงพยาบาลเอกชน ค่ะ
    เริ่มต้นด้วยแผนประกันเด็กจากเมืองเทย

    จากแผนประกันดังตารางข้างต้นนี้ เมืองเทยยอมขายค่าห้องแยกค่าใช้จ่ายสูงสุดที่ 4,000 บาทต่อคืน(กรอบเส้นสีดำ) แต่ถ้าเพิ่มเติมเป็น เมืองเทย เอกตรา จะทำให้ได้วงเงินค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการเพิ่มอีก 1,000 บาทต่อคืน แถมยังช่วยจ่ายส่วนเกินค่าใช้จ่ายอื่นที่ไม่ใช่ค่าห้อง 80% ของส่วนเกินสิทธิ์ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท ต่อครั้งและมีส่วนร่วมจ่าย 20,000 ต่อครั้ง โดยไม่มีเงื่อนไขว่าต้องมีการผ่าตัดหรือเป็นโรคร้ายแรงค่ะ ซึ่งเรายังสามารถนำไปเคลมจากค่าห้องปกติได้อีกด้วยค่ะ เบี้ยรวมทั้งหมดตามกรอบสีน้ำเงินจ้า
    ต่อมาจะเป็นแผนประกันเด็กจากอาคะเนค่ะ

    แผนประกันของอา คะเน ค่าห้องแบบแยกค่าใช้จ่ายนั้น ถือว่าธรรมดามิได้แซงหน้าค่ายอื่น ซึ่งค่ายนี้มีแพคเกจพื้นฐานที่มีชื่อว่า ประกันเด็กยิ้ม เป็นค่าห้องธรรมดา 2,200 บาทต่อคืน บวกกับแผนประกันที่มีชื่อว่า HS+(เป็นสำรองจ่ายก่อนค่ะแล้วเอาใบเสร็จใบรับรองแพทย์มาเบิกทีหลังค่ะ) ซึ่งซื้อเพิ่มได้ค่ะ ทำให้เราสามารถนำใบเสร็จ ใบรับรองแพทย์ ค่าใช้จ่ายส่วนเกินมาเบิกได้อีกด้วยค่ะ ให้ส่วนเกินค่าห้อง 1,500 บาทต่อคืน และยังให้ค่ารักษาส่วนเกินอื่นๆ อีก 90% วงเงินสูงสุดในการช่วยจ่ายส่วนเกินไม่เกิน 100,000 บาทต่อครั้ง ค่าเบี้ยประกันจะอยู่ที่สองหมื่นนิดๆ แต่เท่ากับว่าเราได้ค่าห้องรวม 3,700 บาทและยังได้รักการชดเชยส่วนเกินค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก 90% วงเงินสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อครั้งค่ะ สำหรับใครที่ใช้บริการในโรงพยาบาลที่ค่าห้องไม่สูงมากนัก แค่แผนนี้แผนเดียวก็ไหวแล้วค่ะ
    ยังไม่หมดจ้า…..อา คะเนเค้ายังมีทีเด็ดที่สองค่ะ คือ ซื้อแผนประกันเด็กยิ้มไปหนึ่งเล่มแล้วยังสามารถซื้อเพิ่มอีกหนึ่งเล่มได้ค่ะ เช่น ซื้อเพิ่มอีหนึ่งเล่มที่มีค่าห้อง 1,000 บาทต่อคืนและแผน HS+ จ่ายส่วนเกินค่าห้อง/บริการ/ค่าอาหาร 1,500 บาท ค่ารักษาส่วนเกินอื่นๆ 90% แต่วงเงินสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อครั้ง ราคาค่าเบี้ยแผนนี้อยู่ที่ 13,084 บาท (กรอบสีส้มในตารางข้างต้น) รวมกัน 2 เล่มค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายอยู่ที่ 20,578 + 13,084 = 33,662 บาท แต่เท่ากับว่าเราได้วงเงินค่าห้องสูงสุดที่ 6,200 บาทต่อคืน และวงเงินค่ารักษาแต่ละรายการรายละเอียดตามตารางค่ะ แล้วยังได้วงเงินช่วยจ่ายส่วนเกินสิทธิ์อีก 90% วงเงินสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อครั้งอีกต่างหากค่ะ ซึ่งผลประโยชน์แบบนี้เบี้ยประกันเท่านี้หาได้ยากมากนะคะ

    ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณข้อมูลดีๆจากแม่มณีด้วยนะค่ะ ทั้งนี้การซื้อประกันในแต่ละครั้งคุณพ่อคุณแม่ต้องศึกษารายละเอียดให้ครบถ้วน ตรงตามที่ต้องการและสอดคล้องกับการเงินด้วยนะคะ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมคุณพ่อคุณแม่สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้จากตัวแทนของบริษัทประกันนั้นค่ะ

    ขอบคุณที่มา : เเม่มณี Ms.Many

  • ผู้ป่วยใน และ ผู้ป่วยนอก คืออะไร

    ผู้ป่วยใน และ ผู้ป่วยนอก คืออะไร

    ผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก เรามักได้ยินกันบ่อยๆแต่หลายๆท่านยังสับสนกับคำว่าผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกคืออะไร มีความแตกต่างกันอย่างไร แล้วมีความเกี่ยวข้องอะไรกับประกันสุขภาพ วันนี้แอดมินได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาฝากค่ะ ตามมาเลยจ้า…

    ผู้ป่วยใน (IPD)

    ผู้ป่วยในคืออะไร

    ผู้ป่วยใน (IPD : In Patient Department) หรือที่เราเรียกกันสั้นๆว่า “IPD” คือ ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาและต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตั้งแต่ 6 ชั่วโมงขึ้นไป เช่น ป่วยหนักต้องแอดมิดนอนโรงพยาบาล การเข้าผ่าตัด ฯลฯ และให้รวมถึงการรับตัวไว้เป็นผู้ป่วยในแต่เสียชีวิตก่อน 6 ชั่วโมง
    ในส่วนของประกันส่วนใหญ่ก็จะให้ความคุ้มครองในกรณีที่เป็นผู้ป่วยในอยู่แล้วค่ะ ซึ่งจะได้รับจากการคุ้มครองจาการทำประกันประเภทนี้ เช่น ค่าใช้จ่ายทั่วไปในโรงพยาบาล ค่าบริการใช้ห้องผ่าตัด ค่า X-ray ค่าตรวจทางชีวเคมี ค่าธรรมเนียมแพทย์ผ่าตัด ค่าปรึกษาแพทย์พิเศษ ค่าสินไหมทดแทนในการรักษาตัวในโรงพยาบาล เป็นต้น
    ทั้งนี้ เงื่อนไขทั้งหมดเป็นไปตามที่บริษัทประกันกำหนด ซึ่งสามารถสอบถามรายละเอียดต่างๆได้จากทางบริษัทประกันหรือตัวแทนขายประกันที่คุณสนใจค่ะ

    ผู้ป่วยนอก (OPD)

    ผู้ป่วยนอกคืออะไร

    ผู้ป่วยนอก (OPD : Out Patient Department) หรือที่เราเรียกกันสั้นๆว่า “OPD” คือ ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่คลินิกหรือโรงพยาบาล โดยไม่ต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล เช่น ไข้หวัด ฉีดวัคซีน อุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆ ฯลฯ หรือการที่เราไปพบแพทย์ รับยา และกลับบ้านโดยที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาลค่ะ

    โดยส่วนใหญ่ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอกนั้น บริษัทประกันหลายๆบริษัทมักมีข้อกำหนดที่ไม่ต่างกันมากนัก คือ อายุเริ่มของผู้เอาประกันภัยตั้งแต่อายุ 6 – 69 ปี ในส่วนของการชำระเบี้ยประกันสามารถเลือกชำระได้ทั้งแบบรายปี ราย 6 เดือน ราย 3 เดือน และแบบรายเดือนซึ่งเป็นไปตามกรมธรรม์หลักของผู้เอาประกันภัย ซึ่งประกันสุขภาพผู้ป่วยนอกสามารถซื้อแนบท้ายกรมธรรม์หลักได้ทั้งที่เป็นกรมธรรม์ที่มีผลบังคับอยู่แล้ว หรือกรมธรรม์ใหม่ได้ค่ะ ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอกมักมีการคุ้มครองที่ไม่แตกต่างกันมาก ได้แก่ ค่าใช้จ่ายทั่วไปจากการรักษาพยาบาล ค่ายา ค่าปรึกษา/รักษาแพทย์เฉพาะทาง ค่าบริการทางการแพทย์ ค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุฉุกเฉิน(อุบัติเหตุที่ไม่รุนแรง) เป็นต้น
    ทั้งนี้เงื่อนไขทั้งหมดเป็นไปตามที่บริษัทประกันกำหนด ซึ่งสามารถสอบถามรายละเอียดต่างๆได้จากทางบริษัทประกันหรือตัวแทนขายประกันที่คุณสนใจค่ะ

    ผู้ป่วยใน (IPD) และ ผู้ป่วยนอก (OPD) สรุปง่ายๆคือ ถ้าต้องนอนโรงพยาบาลคือผู้ป่วยในนั่นเองค่ะ และมีความแตกต่างกันที่วงเงินการคุ้มครองรวมไปถึงการจ่ายค่าเบี้ยประกันที่แตกต่างกันออกไป โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทประกันนั้นๆ และในกรมธรรม์ประกันสุขภาพบางฉบับอาจมีการระบุเงื่อนไขข้อตกลงการเบิกค่าสินไหมทดแทนที่แตกต่างกันไป

    ดังนั้น การซื้อประกันควรศึกษารายละเอียดและตรวจสอบเงื่อนไขก่อนตัดสินใจซื้อกรมธรรม์ประกันสุขภาพ เพื่อผลประโยชน์ของผู้เอาประกันภัยค่ะ เพราะเราไม่รู้ว่าเมื่อไรเราหรือคนที่รักจะเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ การมีประกันสุขภาพผู้ป่วยใน และการทำประกันสุขภาพเสริมผู้ป่วยนอกก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่มักจะเจ็บป่วยได้ง่าย รู้สึกอุ่นใจ หมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเมื่อต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลค่ะ

  • ทำไมเด็กแรกเกิดจึงควรทำประกันสุขภาพ

    ทำไมเด็กแรกเกิดจึงควรทำประกันสุขภาพ

    ทำไมเด็กแรกเกิดจึงควรทำประกันสุขภาพ
    เนื่องจากในปัจจุบันการดำเนินชีวิตและสภาพแวดล้อมต่างๆมีการเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเราไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งอุบัติเหตุหรือการเจ็บไข้ได้ป่วย การทำประกันสุขภาพให้ลูกจึงเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้ามค่ะ เพราะเด็กร่างกายมีภูมิต้านทานต่ำกว่าในเด็กโตหรือผู้ใหญ่ จึงทำให้มีโอกาสในการเจ็บป่วยได้ง่ายและค่าใช้จ่ายในการรักษาของโรคบางกลุ่มที่ค่อนข้างสูงค่ะ การทำประกันสุขภาพเด็กจึงเป็นสิ่งที่ช่วยคุ้มครองความเสี่ยงและช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกอุ่นใจเรื่องการรักษารวมถึงเงินในกระเป๋าไปด้วยค่ะ แต่ไม่ได้หมายความว่าถ้าเด็กมีประกันแล้วจะไม่เจ็บป่วยนะคะ ประกันสุขภาพสำหรับเด็กแรกเกิดทั่วไปมักเริ่มทำได้เมื่อลูกอายุ 15 วัน(เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทประกันกำหนด) ไม่ได้มีผลทันทีที่ลูกลืมตาดูโลกนะคะ ประกันสุขภาพสำหรับเด็กช่วง 0 – 5 ปี เบี้ยประกันจะค่อนข้างแพงกว่าในช่วงวัยอื่น เพราะเด็กมีการป่วยง่ายและบ่อยค่ะ

    ทำไมต้องประเด็กแรกเกิด

    การทำประกันสุขภาพเด็กแรกเกิด คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษารายละเอียดของกรมธรรม์อย่างละเอียดให้ตรงตามที่ต้องการและคุ้มกับค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายไปค่ะ ซึ่งอาจพิจารณาได้ดังนี้

    • ควรทำประกันตั้งแต่ลูกยังเล็ก เพราะเด็กเล็กมีโอกาสเสี่ยงในการเจ็บป่วยได้ง่ายและบ่อยกว่าในวัยอื่นๆ
    • การทำประกันแบบสะสมทรัพย์ คือ การซื้อประกันนี้จะมีเงินคืนเมื่อครบอายุสัญญา เพื่อเก็บไว้เป็นทุนการศึกษา พร้อมทั้งประกันความเสี่ยงยามลูกเจ็บป่วยได้ด้วย แต่ประกันประเภทนี้จะมีค่าเบี้ยประกันสูงกว่าประกันสุขภาพชนิดไม่มีเงินคืนนะคะ
    • ความคุ้มควรครอบคลุมกับการรักษาพยาบาลยามเจ็บป่วยและอุบัติเหตุ รวมทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก
    • การส่งเบี้ยสั้นแต่คุ้มครองยาว เช่น ส่งเบี้ยประกัน 10 ปีคุ้มครองถึง 80 จะได้ผลตอบแทนมากกว่าแบบส่ง 20 ปีคุ้มครองตลอดชีพค่ะ
    • เลือกทำประกันที่สอดคล้องกับเงินในกระเป๋า ซึ่งในแต่ละบริษัทนั้นก็จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไปค่ะ
    • ควรเลือกบริษัทประกันและตัวแทนประกันที่มีความน่าเชื่อ ซื่อตรงสามารถติดต่อได้เมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องการสอบถามข้อมูลและปรึกษาง่ายค่ะ

    การพิจารณาของบริษัทประกัน โดยส่วนใหญ่แล้วเงื่อนไขของบริษัทประกันที่กำหนดไว้ ได้แก่ ผู้เอาประกันสุขภาพจะต้องมีอายุ 15 เดือน และต้องมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งพิการ ไม่มีโรคประจำตัว ก่อนการทำประกันค่ะ ทั้งนี้บริษัทประกันมีสิทธิ์บอกเลิกล้างสัญญาประกันได้ (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทประกันกำหนดไว้)

    เพราะสุขภาพของลูกนั้นเป็นสิ่งสำคัญค่ะ การทำประกันสุขภาพให้ลูกตั้งแต่ยังเล็กถือว่าเป็นเรื่องที่ดีค่ะ เพราะว่าเราไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับลูกของเราหรือไม่ ดังนั้นการมีประกันเอาไว้อุ่นใจ เพราะเวลาที่ลูกไม่สบายก็สามารถเข้าโรงพยาบาลตามที่ต้องการได้ หมดกังวลกับค่าใช้จ่ายต่างๆขณะเข้ารับการรักษา ดังนั้นการเลือกทำประกันให้ลูกควรเลือกทำตามความสอดคล้องกับรายได้ของคุณพ่อคุณแม่และดูในเรื่องของความคุ้มครองเป็นหลักค่ะ

  • มีสิทธิรักษาพยาบาล ควรทำประกันเพิ่มหรือไม่

    มีสิทธิรักษาพยาบาล ควรทำประกันเพิ่มหรือไม่

    สวสัดีค่ะ
    จากกระทู้คำถามจากพันทิปที่ว่า ตอนนี้ลูกเราอายุ 1 ปี 5 เดือน มีสิทธิรักษาพยาบาล 30 บาทในโรงพยาบาลที่ดีมากๆแห่งหนึ่ง ควรทำประกันสุขภาพเด็กเพิ่มหรือไม่ครับ และ
    จากคำถามที่คุณแม่ได้ตั้งไว้ก็มีสมาชิกพันทิปหลายๆท่านมาแสดงความคิดเห็นต่างๆ อิทิเช่น

    ความคิดเห็นจากคุณ teerit กล่าวว่า
    การทำประกันสุขภาพให้ลูกเพิ่มนั้น บอกยากครับ การที่เราจะทำประกันเพิ่มให้กับลูกนั้นต้องดูว่าคุณจริงจังและกังวลมากแค่ไหน สามารถดูแลเองได้ไหม เพราะโรงพยาบาลของรัฐแอดมิทยากกว่าโรงพยาบาลเอกชนครับ ส่วนตัวผมทำประกันแบบเหมาจ่ายไว้ กรณีกลัวลูกป่วยบ่อยๆ ส่วนกรณีที่ป่วยหนักหรือโรคร้ายแรงก็ต้องเข้าโรงพยาบาลรัฐอยู่แล้วครับ เพราะถ้าป่วยหนักขนาดนั้นจริงประกันเหมาจ่ายก็เอาไม่อยู่ครับ ของผลเองป่วยไป 2 ครั้งแบบถ้าไปหาหมอเอกชนได้นอนแน่นอนแต่ก็ดูกันเองครับเหนื่อยหน่อย ไม่จำเป็นไม่อยากให้นอนโรงพยาบาลมันมีข้อเสียและความเสี่ยงอยู่แต่ก็มีพ่อแม่หลายๆคนจะชอบให้นอนเพราะเบิกประกันได้ถึงแม้จริงๆจะไม่จำเป็นก็เถอะ ถ้าไม่มากเกินไปก็พอไหวประกันจ่าย ถ้ามากไปหมอก็จะบอกเลยว่าถ้านอนประกันอาจจะไม่จ่ายครับ ลองถามตัวเองดูนะครับอีกอย่างโรงพยาบาลรัฐบางทีจะได้ห้องรวมเป็นส่วนใหญ่ก็จะเสี่ยงขึ้นไปอีกหน่อยอาจได้โรคเพิ่มง่ายขึ้นครับ
    ถ้าให้แนะนำแบบฟันธงเลยก็ขอบอกว่าทำเถอะครับแต่ต้องตัดใจเงินก้อนนั้นนะ อย่างของผมตัวแทนก็ยังเสียดายบอกไม่อยากให้ทำเหมาจ่ายเพราะเบี้ยแพงให้ทำยูนิตลิงค์ แถมของลูกผมมีสวัสดิการที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งลดราคาบางส่วนอยู่แล้วแต่ผมถือว่าเป็นเรื่องการบริหารความเสี่ยงก็ทำแบบเหมาจ่ายไป แต่ตัดใจทิ้งค่าเบี้ยเลยครับที่แนะนำเพราะโรงเรียนสมัยนี้ห้องแอร์ซะมาก มีโอกาสป่วยบ่อยแน่นอนครับ

    ความคิดเห็นจากคุณ แม่ใหญ่สอน กล่าวว่า
    เด็กแรกเกิดถึง 5 ปี มีโอกาสป่วยง่ายและบ่อยค่ะ ยิ่งถ้าเข้าโรงเรียนแล้วมีโอกาสบ่อยบ่อยขึ้นเพราะอาจติดจากเพื่อนๆ แต่ถ้าคุณแม่มั่นใจว่าโรงพยาบาลตามสิทธิ 30 บาท เขาจะรักษาได้ดีและมีเตียงสำหรับลูกเราตลอด 24 ชม. เผื่อเกิดเจ็บป่วยฉุกเฉินช่วงกลางคืนก็ไม่ต้องทำประกันเพิ่มก็ได้ค่ะ หรือถ้าคุณแม่กังวล หรืออยากมีไว้เพื่อความอุ่นใจไม่ว่าลูกเราเจ็บป่วยขนาดไหน ตอนไหน จะเข้าโรงพยาบาลเอกชนหรือไม่ เราก็มีเงินจ่ายก็ทำประกันเผื่อไว้เลยคะ ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในการรักษาให้เบาลงกรณีที่ต้องจ่ายมากๆค่ะ

    ความคิดเห็นจากคุณ Deathangel กล่าวว่า
    ส่วนตัวเราคิดว่าขึ้นอยู่กับเรารับได้หรือไม่กับสิทธิรักษาพยาล 30 บาทที่ได้รับ เช่น กรณีนอนโรงพยาบาลก็ต้องนอนตามที่สิทธิกำหนด(ห้องรวม) ไม่ใช่ห้องรวมไม่ดีนะครับ (เพราะลูกผมล่าสุดป่วยหนักจึงต้องแอดมิทอยู่ห้องรวม เพื่อให้พยาบาลสามารถดูแลได้ทั่วถึงครับ) และก็มีข้อจำกัด เช่น ให้เฝ้าได้คนเดียวซึ่งก็จะเหนื่อยหน่อยครับตอนกลางคืนต้องเฝ้าคนเดียวดูคนเดียว ถ้าเป็นพิเศษเดี่ยวก็จะอยู่เฝ้าด้วยกันได้ครับ ซึ่งถ้าต้อง admit และไม่มี Criteria ให้ต้องอยู่ห้องรวมผมก็อยากเลือกพิเศษเดี่ยวครับ ผมจึงเลือกทำประกันไว้ด้วยครับ(เผื่อกรณีจำเป็นห้องไม่ว่าง ก็ยังผ่อนหนักผ่อนเบากรณีต้องเข้าเอกชน) โดยทำความคุ้มครองแค่เพียงพอสำหรับโรงพยาบาลรัฐ(ซึ่งต้องยอมรับว่าเตียงหายากมาก และถ้าใกล้หายแล้วมีคนหนักกว่าคอยเตียง หมอจะขอให้ discharge เพื่อให้คนที่ป่วยหนักกว่าได้เตียงครับ)

    ความคิดเห็นจากคุณ smallkid กล่าวว่า
    เราก็มีสิทธิของราชการค่ะ แต่ก็ทำประกันสุขภาพให้ลูกเลือกที่พอจ่ายค่าห้องของโรงพยาบาลที่คาดว่าจะใช้ประจำ เรื่องค่ารักษา โรคที่เด็กๆเป็นกันบ่อยๆ ค่ารักษามักจะไม่สูงค่ะ ที่เน้นให้ดูค่าห้องเพราะปัจจุบันค่าห้องสูงกว่าที่คิดไว้ค่ะ โรงพยาบาลระดับกลางๆค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าพยาบาล คืนหนึ่งต้องมี 4,000 – 5,000 บาท ลูกเราค่ารักษา 40,000 ยังไม่เคยต้องจ่ายเพิ่มค่ะ จะป่วยบ่อยแค่ช่วง 1 – 2 ปีแรกที่เข้าเรียนอนุบาลค่ะ ตอนนี้ 5 ขวบ ไม่ต้องแอดมิทแล้ว ไม่แนะนำประกันพวกเหมาจ่ายค่ะเพราะถ้าเคลมเยอะๆปีต่อไปอาจถูกยกเลิกได้ง่ายๆค่ะ(เราเจอมาแล้ว)

    ความคิดเห็นจากคุณ Jarunya.b กล่าวว่า
    เราว่าควรทำค่ะ เราทำควบในยูนิตลิงต์ให้ลูกเหมือนกันค่ะ เอาแบบตัวท๊อปเลยกัดฟันทำคิดซะว่าเป็นทุนไว้ให้ลูก เพราะบางทีโรคที่ยาแพงๆโรงพยาบาลรัฐกว่าจะอนุมัติยาได้ก็หลายขั้นตอนนะคะ แล้วก็ไม่รู้ว่านโยบายแต่ละแห่งจะเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหนอนาคตลูกจะอยู่ไหนก็ยังไม่รู้ค่ะ

    ความคิดเห็นจากคุณ นายแสงจันทร์ กล่าวว่า
    ถ้าบริหารการเงินได้ระดับหนึ่ง จะทำไว้ก็ไม่เสียหายครับ บางครั้งป่วยแล้วจะมาคิดหากรมธรรม์เพื่อครอบคลุมมันก็ยากนะครับ เพราะบางบริษัทฯอาจไม่คุ้มครองโรคที่เคยป่วยมาแล้วครับ

    ความคิดเห็นจากหมายเลข 4731469 กล่าวว่า
    ลูกผมก็ใช้สิทธิ 30 บาทนะ แต่ก็ทำประกันสุขภาพไว้ด้วยเพราะเด็กป่วยเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ ป่วยแล้วไม่อยากให้แอทมิทโรงพยาบาลรัฐ มันจุกจิกไปหน่อยครับ

    ส่วนตัวแอดมิทคิดว่า การทำประกันสุขภาพเด็กเพิ่มนั้นเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองหลายๆท่านเรื่องทำให้กับลูกน้อย เพื่อเป็นหลักประกันความเสี่ยงในเรื่องของลูกภาพให้กับลูกรัก แบ่งเบาเรื่องของค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล เพราะการเจ็บป่วยของลูกในแต่ละครั้งเราต่างต้องการให้ลูกได้รับการรักษาที่ดีที่สุดค่ะ

    ขอบคุณที่มา pantip.com

  • ประกันสุขภาพเด็กอาคเนย์ประกันชีวิต

    ประกันสุขภาพเด็กอาคเนย์ประกันชีวิต

    สวัสดีค่ะ
    บทความนี้เรานำข้อมูลเกี่ยวกับประกันสำหรับเด็กของบริษัทอาคเนย์ประกันชีวิต แผนประกันสุขภาพเด็กเพื่อลูกรักให้ได้รับความคุ้มครองที่ดีที่สุด สุดคุ้มที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาลของลูกน้อย มาฝากคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังสนใจแผนประกันสุขภาพจากค่ายนี้ค่ะ เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่พิจารณาเลือกตามความต้องการที่สุดค่ะ โดยแบ่งเป็น 4 แผนหลักๆ ดังนี้

    ประกันสุขภาพเด็ก แผนมาตรฐาน (มีเงินชดเชยรายวัน)

    • คุ้มครองสุขภาพเด็กตั้งแต่อายุ 1 เดือน ถึง 15 ปี
    • ค่าห้องสูงสุดจำนวน 3,700 บาทต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 90 วัน ต่อครั้งต่อโรค
    • เงินชดเชยกรณีนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 1,000 บาท/วัน
    • คุ้มครองผู้ป่วยนอกจากอุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน ขณะเป็นผู้ป่วยนอกเนื่องจากอุบัติเหตุและรักษาต่อเนื่อง
    • คุ้มครองค่าใช้จ่ายส่วนเกินให้อีก 90% ในความคุ้มครองอื่นๆ ยกเว้นค่าห้องค่าอาหาร จะรับผิดชอบให้ตามตารางผลประโยชน์
    • อัตราเบี้ยประกันเพิ่ม-ลดตามอายุของผู้เอาประกัน
    • เงื่อนไขไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องซื้อพ่วงพ่อแม่
    • ฯลฯ

    หมายเหตุ : ข้อยกเว้นเป็นไปตามเงื่อนไขของแผนประกันฯ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้จากตัวแทนประกันค่ะ

    ประกันสุขภาพเด็ก สะสมทรัพย์ (เงินคืนระหว่างปี, เงินชดเชยรายวัน)

    • คุ้มครองสุขภาพเด็กตั้งแต่อายุ 1 เดือน ถึง 15 ปี
    • ค่าห้องสูงสุดจำนวน 3,700 บาทต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 90 วัน ต่อครั้งต่อโรค
    • เงินชดเชยรายได้ จากการเข้าพักรักษาตัวในฐานะผู้ป่วยในวันละ 1,000 บาท
    • คุ้มครองผู้ป่วยนอกจากอุบัติเหตุค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน
    • คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลอันเนื่องมาจากอุบัติผู้ป่วยนอกและต่อเนื่อง
    • รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนเกินให้อีก 90% ของค่าใช้จ่ายส่วนที่เกินในแต่ละผลประโยชน์ และไม่เกินยอดรวมผลประโยชน์สูงสุดต่อครั้ง
    • บเงินคืนต่อเนื่อง 10% ของทุนประกันทุก 3 ปี เริ่มตั้งแต่สิ้นปีที่ 3 จนถึงสิ้นปีที่ 18
    • รับเงินก้อนเป็นทุนการศึกษา สิ้นปีที่ 21 รับเงิน 40% ของทุนประกัน
    • จ่ายคืนทุกปีจนสิ้นสุดสัญญา รับเงินคืน 5% ของทุนประกันตั้งแต่สิ้นปีที่ 22 เป็นต้นไป
    • อัตราเบี้ยประกันเพิ่ม-ลดตามอายุของผู้เอาประกัน
    • เงื่อนไขไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องซื้อพ่วงพ่อแม่
    • ฯลฯ

    หมายเหตุ : ข้อยกเว้นเป็นไปตามเงื่อนไขของแผนประกันฯ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้จากตัวแทนประกันค่ะ

    ประกันสุขภาพเด็ก สไมล์คิดส์

    • คุ้มครองสุขภาพเด็กตั้งแต่อายุ 1 เดือน ถึง 15 ปี
    • ค่าห้องสูงสุดจำนวน 3,700 บาทต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 90 วัน ต่อครั้งต่อโรค
    • คุ้มครองผู้ป่วยนอกจากอุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน ขณะเป็นผู้ป่วยนอกเนื่องจากอุบัติเหตุ
    • รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนเกินให้อีก 90% ของค่าใช้จ่ายส่วนที่เกินในแต่ละผลประโยชน์ และไม่เกินยอดรวมผลประโยชน์สูงสุด
    • เบี้ยประกันเบาๆ อายุ 0-5 ปี ให้ความคุ้มครองสูงสุดในแผน 3 เบี้ยเพียง 13,3xx บาทเท่านั้น
    • อัตราเบี้ยประกันเพิ่ม-ลดตามอายุของผู้เอาประกัน
    • เงื่อนไขไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องซื้อพ่วงพ่อแม่
    • ฯลฯ

    หมายเหตุ : ข้อยกเว้นเป็นไปตามเงื่อนไขของแผนประกันฯ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้จากตัวแทนประกันค่ะ

    ประกันสุขภาพเด็ก แผนเพื่อลูกรัก

    • ค่าห้องสูงสุดจำนวน 7,400 บาทต่อวัน (สูงสุดไม่เกิน 90 วันต่อครั้งต่อโรค)
    • รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนเกินให้อีก 90% ของค่าใช้จ่ายส่วนที่เกินในแต่ละผลประโยชน์ และไม่เกินยอดรวมผลประโยชน์สูงสุด
    • คุ้มครองผู้ป่วยนอกจากอุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน ขณะเป็นผู้ป่วยนอกเนื่องจากอุบัติเหตุ
    • เงินชดเชยรายได้จากการเข้าพักรักษาตัวในฐานะผู้ป่วยในวันละ 1,000 บาท
    • อัตราเบี้ยประกันเพิ่ม-ลดตามอายุของผู้เอาประกัน
    • เงื่อนไขไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องซื้อพ่วงพ่อแม่
    • ฯลฯ

    หมายเหตุ : ข้อยกเว้นเป็นไปตามเงื่อนไขของแผนประกันฯ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้จากตัวแทนประกันค่ะ

    ขอบคุณข้อมูลจากบริษัทอาคเนย์ประกันชีวิตค่ะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาประกันให้กับลูกรักนะคะ

  • ประกันการเดินทางเมื่อต้องเดินทางกับเด็ก

    ประกันการเดินทางเมื่อต้องเดินทางกับเด็ก

    ประกันการเดินทางเมื่อต้องเดินทางกับเด็ก
    สวัสดีค่ะ คุณพ่อคุณแม่หลายบ้านที่กำลังวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ อย่าลืมมองหาประกันการเดินทางสำหรับครอบครัวไว้บ้างนะคะ เพื่อความอุ่นใจในการเดินทางค่ะ แต่เอ๊ะ….สงสัยใช่มั้ยค่ะว่า ประกันการเดินทางคืออะไร และทำไมต้องซื้อประกันการเดินทางด้วยล่ะ จะเป็นการสิ้นเปลืองหรือเปล่า วันนี้แอดมินจะพามาหาคำตอบกันค่ะ

    ประกันภัยการเดินทาง คือ การประกันส่วนบุคคลระยะสั้นแบบทำแล้วทิ้งค่ะ คุ้มครองแค่ช่วงระยะเวลาที่ไปเที่ยวค่ะ เช่น ไปเที่ยวจำนวน 10 วันก็จ่ายเบี้ยประกันแค่ 10 วันค่ะ เบี้ยประกันราคาไม่แพงส่วนใหญ่จะราคาอยู่ที่หลักร้อยเท่านั้นเองค่ะ ในส่วนของการคุ้มครองของประกันการเดินทาง ได้แก่ สุขภาพ คุ้มครองการรักษาพยาบาลกรณีบาดเจ็บ อุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วย กรณีฉุกเฉิน การเคลื่อนย้ายเพื่อรักษาพยาบาลฉุกเฉินหรือการเคลื่อนย้ายกลับประเทศไทย คุ้มครองเกี่ยวกับการเดินทาง กรณียกเลิกการเดินทางหรือพลาดการต่อไฟลท์เดินทาง คุ้มครองเกี่ยวกับกระเป๋าสัมภาระล่าช้าหรือเสียหาย ทรัพย์สินเสียหาย หรือสูญหายจากการถูกชิงทรัพย์(รายละเอียดเป็นไปตามแผนประกันฯ) และในการขอวีซ่าบางประเทศผู้ยื่นขอจะต้องมีประกันการเดินทางและต้องเป็นบริษัทที่ได้รับการรับรองว่าเชื่อถือได้ค่ะ

    ประกันการเดินทาง

    ตัวอย่างประกันภัยการเดินทาง(TA)จากสินมั่นคง
    ประกันภัยการเดินทาง คุ้มครองอุบัติเหตุตลอด 24 ชั่วโมง ในระหว่างการเดินทาง เสียชีวิต, สูญเสียอวัยวะ (อ.บ.1), ค่ารักษาพยาบาลอาการบาดเจ็บเนื่องจากอุบัติเหตุ, การถูกฆาตกรรมและการลอบทำร้าย

    เงื่อนไขการรับประกัน
    – มีอายุระหว่าง 1 – 65 ปี เท่านั้น
    – คุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 60 วัน / เที่ยว

    การประกันภัยนี้ให้การคุ้มครองความเสียหายอันเกิดจากความบาดเจ็บจากปัจจัยนอกร่างกายของผู้เอาประกันภัยโดยอุบัติเหตุและทำให้เกิดผลดังต่อไปนี้

    1. การเสียชีวิตหรือการสูญเสียมือ เท้าและสายตา
    ถ้าความบาดเจ็บที่ได้รับทำให้ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตหรือสูญเสียมือ เท้าและสายตา ภายใน 180 วัน นับแต่วันเกิดอุบัติเหตุก็ดี หรือความบาดเจ็บที่ได้รับทำให้ผู้เอาประกันภัยต้องรักษาตัวติดต่อกันในโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลหรือคลินิก และเสียชีวิตหรือสูญเสียมือ เท้าและสายตา เพราะเหตุบาดเจ็บนั้นก็ดี บริษัทจะจ่ายค่าทดแทนให้ ดังรายการต่อไปนี้

    • การเสียชีวิต 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • การสูญเสียมือสองข้าง หรือเท้าสองข้าง หรือสายตาสองข้าง 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • การสูญเสียมือหนึ่งข้างและเท้าหนึ่งข้าง 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • การสูญเสียมือหนึ่งข้างและสายตาหนึ่งข้าง 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • การสูญเสียเท้าหนึ่งข้างและสายตาหนึ่งข้าง 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
    • การสูญเสียมือหนึ่งข้าง หรือเท้าหนึ่งข้าง หรือสายตาหนึ่งข้าง 50% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

    หมายเหตุ :
    – การสูญเสียมือหรือเท้า หมายถึง การถูกตัดออกตั้งแต่ข้อมือหรือข้อเท้าหรือสูญเสียสมรรถภาพ ในการใช้งาน ของอวัยวะนั้นโดยสิ้นเชิงถาวร
    – การสูญเสียสายตา หมายถึง ตาบอดสนิท และไม่มีทางรักษาให้หายได้ตลอดไปบริษัทจะจ่ายค่าทดแทนตามข้อนี้ เพียงรายการที่สูงสุดรายการเดียวเท่านั้น

    2. การรักษาพยาบาล
    ถ้าความบาดเจ็บที่ได้รับทำให้ผู้เอาประกันภัยต้องมีการรักษาโดยแพทย์หรือศัลยแพทย์ที่มีใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ตามกฎหมาย หรือต้องรักษาในโรงพยาบาลหรือต้องจ้างพยาบาลที่มีใบอนุญาตเพื่อให้การพยาบาล บริษัทจะชดใช้ค่าใช่จ่ายที่ผู้เอาประกันภัยได้ใช้จ่ายไปจริงซึ่งเกิดขึ้นภายใน 52 สัปดาห์ นับแต่วันเกิดอุบัติเหตุสำหรับค่ารักษาพยาบาล ค่าโรงพยาบาล และค่าพยาบาล แต่ไม่เกินจำนวนเงินที่ระบุไว้ในตาราง
    หมายเหตุ :
    – ขยายความคุ้มครองการถูกฆาตกรรมและลอบทำร้ายร่างกาย
    – เงื่อนไขและข้อยกเว้นให้ถือตามกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุเดินทาง

    สรุปข้อดีของการซื้อประกันการเดินทาง
    – ลดความเสี่ยงค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กร่วมเดินทางด้วย หากเกิดการเจ็บป่วย ไม่สบาย หรือเกิดอุบัติเหตุขึ้น หมดกังวลเรื่องการรักษาแม้ในต่างประเทศ
    – บริการสำหรับกรณีฉุกเฉิน ประกันการเดินทางมักจะมีบริการ call center 24 ชม. ค่ะ
    – ประกันการเดินทางยังครอบคลุมไปถึงความเสี่ยงอื่นๆที่เกิดขึ้นระหว่างเดินทางรวมถึงสัมภาระ เช่น คุ้มครองเกี่ยวกับกระเป๋าสัมภาระล่าช้าหรือเสียหาย เป็นต้น
    – เบี้ยประกันถูกมากสำหรับการเดินทางระยะสั้นค่ะ เมื่อเทียบกับความคุ้มครองที่จะได้รับค่ะ

    ดังนั้น เดินทางท่องเที่ยวอุ่นใจตลอดทิปอย่าลืมมองหาประกันภัยการเดินทางด้วยนะคะ