ปัญหาสุขภาพทารกที่พบบ่อย

15 ปัญหาสุขภาพของทารกที่พบบ่อย

สุขภาพของลูกน้อยเป็นสิ่งสำคัญค่ะเพราะเราเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกคนล้วนต้องการให้ลูกน้อยคลอดออกมามีสุขภาพและร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ แต่ทารกแรกเกิดนั้นมีความเสี่ยงการเจ็บป่วยหรือการติดเชื้อต่างๆได้ง่าย เนื่องจากการเจริญเติบโตของร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันต่อโรคต่างๆนั้นยังไม่สมบูรณ์เมื่อเทียบกับช่วงวัยอื่นๆ แม้การเจ็บป่วยเล็กน้อยก็สามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้ และนี้คือเหตุผลที่เป็นสิ่งสำคัญที่จะเข้าใจพร้อมรับมือกับอาการต่างๆที่เกิดขึ้นกับทารกค่ะ ดังนั้นวันนี้เรารวบรวมปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในทารกแรกเกิดมาฝากดังต่อไปนี้

การบาดเจ็บจากการคลอด
การบาดเจ็บจากการคลอดเกิดขึ้นในกรณีที่การคลอดลำบากอาจทำให้คุณเกิดการบาดเจ็บจากการคลอดได้ ทารกส่วนใหญ่บาดเจ็บไม่รุนแรงและฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการบาดเจ็บค่ะ

โรคดีซ่าน
โรคดีซ่านเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในทารกหลายคนเกิดมาพร้อมกับอาการตัวเหลืองในทารกแรกเกิด ทารกหลายคนมีระดับบิลิรูบินสูงเมื่อแรกเกิดเนื่องจากตับยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์ โรคดีซ่านในทารกแรกเกิดจะหายไปตามเวลา แต่ก็สามารถทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงได้เช่นกันค่ะ โดยแพทย์จะทำการประเมินและรักษาทารกต่อไปค่ะ

ภาวะตัวเขียวม่วง
ภาวะตัวเขียวม่วงโดยปกติเด็กแรกเกิดจะมีมือและเท้าสีเขียวม่วง ในบางกรณีสามารถเกิดอาการบวมรอบปากและลิ้นในขณะที่ร้องไห้ ซึ่งจะจางหายไปเมื่อการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น แต่ถ้าไม่ยอมจางหายไปต้องรีบพบกุมารแพทย์ทันทีค่ะ

โรคโลหิตจาง
โรคโลหิตจางคือการขาดฮีโมโกลบินบ่งบอกระดับของออกซิเจนในเลือด ซึ่งโรคโลหิตจางที่ไม่ได้รับการรักษาอาจร้ายแรงและเสียชีวิตได้ค่ะ

โคลิค
อาการโคลิคเกิดเมื่อลูกน้อยของคุณร้องไห้โดยไม่หยุดพัก ซึ่งส่วนใหญ่เกิดการอาการจุกเสียดไม่สบายท้องเพราะโดยปกติทารกเมื่อรู้สึกไม่สบายจะแสดงออกด้วยการร้องไห้ อาการโคลิคมักหายไปเมื่อทารกอายุ 3 เดือน

ปัญหาระบบทางเดินหายใจ
โดยปกติการหายใจของเด็กทารกจะใช้เวลา 2 – 3 ชั่วโมงกว่าที่ทารกแรกเกิดจะหัดหายใจได้ตามปกติ ซึ่งหากมีปัญหาการหายใจจากการอุดตันของจมูกแพทย์จะทำการตรวจสอบและรักษาที่ถูกต้องต่อไปค่ะ

โรคหวัด
การติดเชื้อไวรัสอย่างหวัดนั้นเป็นเรื่องธรรมดาในเด็กๆและไม่เป็นอันตรายสามารถรักษาให้หายได้ แต่สำหรับเด็กทารกโรคหวัดที่ง่ายสามารถเปลี่ยนเป็นโรคปอดบวมและโรคร้ายแรงอื่นๆได้ค่ะ ควรพบแพทย์และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดค่ะ

ไข้
ไข้เป็นตัวบ่งชี้ว่าร่างกายกำลังต่อสู้กับการติดเชื้อ หากทารกมีไข้สูงควรได้รับการรักษาทันทีเพราะสามารถนำไปสู่อาการชักที่ร้ายแรงเป็นอันตรายและทำให้สมองเสียหายได้ ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วนค่ะ

อาเจียน
การอาเจียนเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในทารก เป็นเรื่องปกติสำหรับทารกที่แหวะนมออกมาหลังจากดูดนม ดังนั้นหลังกินนมทุกครั้งควรให้ลูกน้อยเรอซึ่งช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกสบายท้องลดการแหวะนมออกมา แต่ในกรณีที่ลูกอาเจียนหรือแหวะนมมากกว่า 5 ครั้งต่อวัน หรืออาเจียนมีสีเขียวควรพบแพทย์ทันทีเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำและปัญหาด้านสุขภาพอื่นๆ

อาการไอ
อาการไอเป็นเรื่องปกติที่เด็กเมื่อกินนมเพราะบางครั้งน้ำนมอาจไหลเร็วเกินไป หากมีอาการไออย่างต่อเนื่องและไม่ดูดนมอาจบ่งบอกถึงปัญหาของปอดหรือระบบย่อยอาหาร แต่ถ้ามีอาการไออย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในเวลากลางคืออาจเกิดจากปัญหาระบบทางเดินหายใจหรือโรคไอกรนในเด็กได้

ปัญหาผิว
เนื่องจากทารกมีผิวหนังที่บอบบาง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่จะประสบปัญหาผิว เช่น ผื่นผ้าอ้อมซึ่งเป็นปัญหาผิวหนังที่พบบ่อยที่สุด ผิวหนังลอกเป็นขุย เป็นต้น

การติดเชื้อที่หู
การติดเชื้อที่หูเป็นโรคของทารกทั่วไป โดยมักจะแสดงอาการการดึงที่หูพร้อมกับการร้องไห้งอแงมากกว่าปกติ การติดเชื้อไวรัสสามารถรักษาให้หายได้ในเวลาไม่กี่วัน แต่การติดเชื้อแบคทีเรียสามารถนำไปสู่การสูญเสียการได้ยินและอาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษา

ลิ้นฝ้าขาว
ลิ้นฝ้าขาวเกิดจากการติดเชื้อราที่เกิดขึ้นในปากของเด็กทารก ทำให้ลูกน้อยงอแง ไม่ดูดนมเนื่องจากเชื้อราจับหนาที่ลิ้น น้ำหนักลด ฯลฯ อาการลิ้นฝ้าขาวต้องได้รับการรักษาและตรวจสอบกับแพทย์ว่ารุนแรงหรือไม่ค่ะ

อาการท้องเสีย
ท้องเสียเป็นปฏิกิริยาที่พบบ่อยจากการติดเชื้อในทารก ควรดูแลอย่างใกล้ชิดและสังเกตอย่างอื่นร่วมด้วยหรือไม่ เช่น มีไข้ ถ่ายเหลวบ่อยครั้งในหนึ่งวัน สีของอุจจาระ เป็นต้น หากมีข้อสงสัยควรปรึกษาแพทย์ทันทีค่ะ

อาการท้องอืด
ถ้าท้องลูกน้อยของคุณรู้สึกแข็งและบวมเนื่องจากมีก๊าซหรือจากอาการท้องผูก ดูแลรักษาด้วยการให้ลูกน้อยเรอทุกครั้งหลังจากดูดนม เป็นต้น แต่ในบางครั้งอาการท้องบวมสามารถบ่งบอกถึงปัญหาของอวัยวะภายในได้เช่นกันค่ะ ควรสังเกตว่าลูกน้อยมีอาการอื่นๆร่วมด้วยหรือไม่

สิ่งเหล่านี้มีผลต่อทารกเกือบทั้งหมดเพื่อปรับตัวเข้ากับโลกภายนอก แต่การที่มีระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายยังไม่แข็งแรง โรคทั่วไปที่พบได้บ่อยและไม่รุนแรงนั้นสามารถเปลี่ยนเป็นปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกตรวจสุขภาพตามกำหนดและเมื่อพบอาการผิดปกติต่างๆที่เกิดขึ้นควรรีบพบกุมารแพทย์ทันทีค่ะ