โรคหลอดลมฝอยอักเสบในเด็ก

โรคหลอดลมฝอยอักเสบในเด็ก

โรคหลอดลมฝอยอักเสบ(bronchiolitis) เป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ พบบ่อยในเด็กแรกเกิดถึง 8 ปี และมักพบอาการรุนแรงในเด็กอายุ 6-12 เดือน โรคหลอดลมฝอยอักเสบเกิดจากการติดเชื้อไวรัสกลุ่มอาร์เอสวี ทำให้เกิดการอักเสบในระบบทางเดินหายใจ ส่งผลให้ผู้ป่วยหายใจลำบาก ซึ่งโรคนี้สามารถติดต่อกันได้ง่ายเช่นเดียวกับโรคหวัด การไอ จามรดกัน การคลุกคลีกับผู้ป่วย หรือการสัมผัสการใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย เชื้อไวรัสดังกล่าวจะมีระยะฟักตัว 2-5 วันหลังจากได้รับเชื้อค่ะ ดังนั้นบทความนี้จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโรคหลอดลมฝอยอักเสบ รวมถึงวิธีการดูแลรักษามาฝากคุณพ่อคุณแม่ค่ะ

อาการโรคหลอดลมฝอยอักเสบในเด็ก เนื่องจากโรคนี้เกิดจากการติดเชื้อไวรัสกลุ่มอาร์เอสวี ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายเป็นหวัด คือ มีไข้ ไอ จาม มีน้ำมูกไหล ฯลฯ หลังจาก และ 2-5 วันต่อมา อาการไอแย่ลงและเริ่มมีปัญหากับการหายใจ หายใจเร็ว หอบ เหนื่อน หายใจมีเสียงหวีด กินอาหารหรือดื่มนมลำบาก ระบบทางเดินหายใจทำงานหนัก ซึ่งสังเกตได้จากการหายใจของเด็ก ปีกจมูกบาน ในบางรายอาจมีอาการปากเขียวซีดร่วมด้วย ฯลฯ ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ภาวะอุดกลั้นระบบทางเดินหาย ภาวะปอดแฟบจากการอุดกั้นของหลอดลม กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หัวใจเต้นผิดจังหวะ ในบางรายอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ และภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง มักพบในเด็กที่คลอดก่อนกำหนด เด็กอายุต่ำกว่า 3 เดือน โรคปอดเรื้อรัง ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น

การดูแลรักษาโรคหลอดลมฝอยอักเสบในเด็ก เนื่องจากยังไม่มีวิธีรักษาจำเพาะ ดังนั้น การรักษาจึงเป็นการรักษาตามอาการที่เกิดขึ้น เช่น การให้ยาลดไข้ การดูดเสมหะออก หรือในบางรายอาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ การใช้ยาปฏิชีวนะ สำหรับผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน การใช้ยาเพื่อขยายหลอดลม ฯลฯ ส่วนใหญ่โรคหลอดลมฝอยอักเสบในเด็ก มักจะหายได้เองใน 7-10 วัน ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลเด็กๆได้ ด้วยการให้พักผ่อนมากๆ ดื่มน้ำสะอาดหรือนมบ่อยๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ ดูดน้ำมูกหรือล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ เพื่อให้ลูกหายใจได้สะดวกมากขึ้นค่ะ และที่สำคัญควรสังเกตอาการของลูกน้อยอย่างใกล้ชิด หากพบอาการผิดปกติหรือมีอาการที่รุนแรงขึ้นควรรีบพาลูกพบแพทย์โดยด่วนค่ะ