โรคหน้าร้อนที่พบบ่อยในเด็ก
โรคหน้าร้อนที่พบบ่อยในเด็ก
โรคหน้าร้อนที่พบบ่อยในเด็ก ซัมเมอร์นี้ต้องระวัง ช่วงวันหยุดปิดเทอมของเด็กๆ ซึ่งหลายๆครอบครัวมักจะใช้เวลาช่วงนี้พาเด็กๆไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และการพาเด็กออกไปเที่ยวในวันที่มีอากาศร้อนหรือช่วงฤดูแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องระวังการเจ็บป่วยในช่วงหน้าร้อนที่ตามมาด้วยนะคะ เนื่องจากในช่วงฤดูร้อนและอากาศที่ร้อนขึ้นแบบนี้ ส่งผลกระทบให้เกิดความแห้งแล้งซึ่งเหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย เป็นต้น ทำให้ซัมเมอร์นี้ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ว่าแต่จะมีโรคอะไรบ้าง รวมถึงวิธีการดูแลและป้องกันในช่วงฤดูร้อนนี้มาดูกันเลยค่ะ
โรคอุจาระร่วงแบบเฉียบพลัน
โรคอุจาระร่วงแบบเฉียบพลัน เกิดจากการรับประทานอาหาร หรือน้ำดื่มที่มีการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย ไวรัสต่างๆ รวมถึงการสัมผัสสิ่งต่างๆ ที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนแล้วนำเข้าปากโดยเฉพาะในเด็กเล็ก เพราะเชื้อโรคเหล่านี้เจริญเติบโตได้ดีในอากาศร้อน อาหารมีโอกาสบูดเสียได้ง่ายกว่าปกติค่ะ
อาการของโรค ถ่ายเหลววันละ 3 ครั้ง หรืออาจมากกว่านั้น และบางครั้งอาจมีมูกเลือดปน อาเจียน กินอาหารได้น้อย รู้สึกหิวน้ำมากกว่าปกติ และมีไข้สูงร่วมด้วยค่ะ
การดูแลเมื่อลูกท้องเสีย หากพบว่าลูกมีอาการถ่ายเหลวตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไปใน 1 วัน คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลลูกได้ด้วยการให้จิบน้ำเกลือแร่ เพื่อชดเชยน้ำในร่างกายที่สูญเสียไป ในกรณีที่ลูกไม่หยุดถ่าย หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น อาเจียน มีไข้สูง ควรรีบพาลูกพบแพทย์ทันทีค่ะ
การป้องกัน คุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มต้นที่การรับประทานอาหารสะอาดปรุงสุกใหม่ ใช้ช้อนกลางเมื่อต้องรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น ดื่มน้ำสะอาดที่มีฝาปิดมิดชิด ไม่ดื่มนมค้างคืนเพราะในช่วงฤดูร้อนทำให้อาหารบูดเสียง่าย ฝึกฝนให้ลูกรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล เช่น การล้างเมื่อก่อนและหลังรับประทานอาหาร เป็นต้น รวมทั้งทำความสะอาดของเล่น สิ่งของเครื่องใช้ที่เด็กสามารถเอาเข้าปากได้เป็นประจำค่ะ
โรคลมแดด
โรคลมแดด เกิดจากอุณหภูมิรอบๆตัวที่สูงมาก ทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบสมอง ระบบไหลเวียนโลหิตและการเต้นของหัวใจ
อาการที่สังเกตได้เมื่อลูกเป็นลมแดด ลูกตัวร้อนขึ้นเรื่อยๆ ชีพจรเต้นแรง หายใจถี่และเร็ว กระหายน้ำ ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน หน้าแดงคล้ายพึ่งออกแดดและไม่มีเหงื่อไหลออกมาแม้จะอากาศร้อน ซึ่งหากไม่ได้รับการดูแลและแก้ไขอย่างถูกต้องอาจทำให้ลูกน้อยหมดสติ หัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิตได้ค่ะ
การดูแลเมื่อลูกเป็นลมแดด คุณพ่อคุณแม่ควรรีบพาลูกเข้าไปในที่ร่มและอากาศถ่ายเทสะดวก จากนั้นให้ถอดเสื้อของลูกออกเพื่อให้ร่างกายได้ระบายความร้อน จับให้ลูกนอนหงายขายกสูงเพื่อให้ระบบการไหลเวียนเลือดทำงานได้คล่องตัวมากขึ้น และใช้หาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวซึ่งจะช่วยให้อุณหภูมิเย็นลงเร็วขึ้นค่ะ
การป้องกันโรคลมแดดในเด็ก ในวันที่อากาศร้อนมาก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกดื่มน้ำมากๆ สวมใส่เสื้อผ้าบางๆระบายความร้อนได้ดี หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้านในช่วงที่อาการร้อนจัด และหากจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรใส่หมวกทุกครั้งที่ออกกลางแดดค่ะ
โรคไข้หวัดแดด
โรคไข้หวัดแดด เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ โดยถูกกระตุ้นจากการเปลี่ยนแปลงของอากาศ เมื่ออุณหภูมิร่ายการมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น เมื่ออยู่ในบ้านอากาศเย็นแล้วออกนอกบ้านเจอกับอากาศร้อนในทันที เป็นต้น ซึ่งเป็นโรคที่ติดต่อจาการสัมผัสโดยตรงกับน้ำมูก น้ำลาย การไอจาม หรือจาการสัมผัสกับสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆของผู้ป่วย
อาการของไข้หวัดแดด มีลักษณะอาการคล้ายกับไข้หวัดทั่วไป คือ มีไข้สูง ปวดศีรษะ น้ำมูกใส ไอ จาม ปวดเมื่อยตามร่างกาย เป็นต้น ความรุนแรงขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของเด็กแต่ละคน ซึ่งปกติแล้วไข้หวัดแดดจะหายภายใน 3 – 7 วัน หากไม่หายต้องรีบไปพบแพทย์ทันทีค่ะ
การดูแลเมื่อป่วยเป็นไข้หวัดแดด คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลลูกในเบื้องต้น เมื่อลูกมีไข้ให้ทานยาลดไข้ เช็ดตัว ทานอาหารย่อยง่าย และนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดมากๆ หากไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์ทันทีค่ะ
การป้องกันโรคไข้หวัดแดด คุณพ่อคุณแม่ใส่ใจดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของลูกให้แข็งแรง พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งร้อนจัด และหลีกเลี่ยงการไปสถานที่แออัด เช่น ห้างสรรพสินค้า เพื่อป้องกันการติดเชื้อ เพราะเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคค่ะ
โรคผิวหนัง ผด ผื่นคัน
โรคผิวหนัง ผด ผื่นคัน จากเกิดการระคายเคืองของผิวหนัง ความอับชื้นของร่างกายเมื่ออยู่ในอากาศร้อนมากๆ ต่อมเหงื่อจะระบายความร้อนออกมาเป็นเหงื่อ และในเด็กเล็กการทำงานต่อมเหงื่อยังไม่ดีจึงอาจเกิดการอุดตันได้ค่ะ
อาการของผดผื่น มีลักษณะเป็นตุ่มใสๆ กระจายทั่วร่างกายและมักเกิดบริเวณที่ผิวบอบบาง เช่น ข้อพับแขน ขา หลัง เป็นต้น และมีอาการคันบริเวณที่เกิดผดผื่นขึ้นค่ะ
การดูแลเมื่อลูกมีผด ผื่นขึ้นตามร่างกาย คุณพ่อคุณแม่ควรอาบน้ำหรือเช็ดตัวให้ลูกบ่อยๆ สวมเสื้อผ้าบางๆระบายความร้อนได้ดี ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถใช้คาลาไมน์ทาบริเวณที่เป็นผื่นขึ้น เพื่อลดอาการคันให้กับลูกค่ะ
การป้องกัน คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตผื่นก่อนว่ามาจากสาเหตุอะไร เช่น แพ้อาหาร แมลงกัดต่อย ฯลฯ หลีกเลี่ยงการพาลูกออกไปเดินเล่นในช่วงเวลาที่อากาศร้อนจัด อาบน้ำหรือเช็ดตัวให้ลูกบ่อยๆ สวมเสื้อผ้าบางๆเพื่อช่วยระบายความร้อนค่ะ
โรคพิษสุนัขบ้า
โรคพิษสุนัขบ้า เกิดจากเชื้อไวรัสเรบีส์ ที่มาจากการโดนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น สุนัข แมว ฯลฯ กัด ข่วน หรือแม้แต่น้ำลายที่มีเชื้อมาโดนบริเวณแผลหรือผิวหนังของลูกก็ทำให้ติดเชื้อได้ ซึ่งหากติดเชื้อพิษสุนัขบ้าอาจทำให้เสียชีวิตได้ค่ะ
อาการของโรคพิษสุนัขบ้า โรคพิษสุขนัขบ้าส่วนใหญ่จะแสดงอาการหลังจากได้รับเชื้อไวรัสประมาณ 1 – 8 สัปดาห์ หรืออาจยาวนานกว่า 1 ปีค่ะ ในช่วงแรกจะมีอาการเบื่ออาหาร เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว อ่อนเพลีย หลังจากนั้นอาการจะเริ่มรุนแรงขึ้น กระสับกระส่าย กลัวแสง กลืนลำบากโดยเฉพาะของเหลว กลัวน้ำ แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ชัก เกร็ง หมดสติและอาจเสียชีวิตได้ การรักษาไม่ได้เป็นเพียงการรักษาตามอาการ ดังนั้นควรระวังและป้องกันไว้ก่อนดีกว่าค่ะ
การป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า หากที่บ้านเลี้ยงสัตว์เลี้ยง ต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าปีละครั้ง โดยเริ่มฉีดได้เมื่อสัตว์เลี้ยงอายุ 2 – 4 เดือน รักษาความสะอาดของสัตว์เลี้ยงอยู่เสมอ ควรหลีกเลี่ยงการให้ลูกไปเล่นกับสุนัขและแมวจรจัด หากถูกสัตว์เลี้ยงกัดหรือขวนให้รีบล้างแผลด้วยน้ำสบู่หลายๆครั้ง แล้วเช็ดให้แห้งใส่ยารักษาแผลสดทันทีค่ะ และควรพาลูกไปฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าให้เร็วที่สุดค่ะ
โรคหน้าร้อน โรคที่พบบ่อยในเด็กในช่วงฤดูร้อนวันหยุดปิดเทอมของเด็กๆ สามารถดูแลและป้องกันได้ค่ะ คุณแม่เป็นกำลังใจให้กับทุกครอบครัวค่ะ