แผลในปาก สาเหตุและการดูแลรักษา

แผลในปาก – สาเหตุและการดูแลรักษา

แผลในปาก – สาเหตุและการดูแลรักษา

แผลในปากในเด็กสามารถเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ ซึ่งมีหลายปัจจัยที่สามารถนำไปสู่แผลในปาก เช่น การขาดกรดโฟลิกวิตามินบี 12 ธาตุเหล็ก แผลยังสามารถเกิดขึ้นเนื่องจากการบาดเจ็บที่ปากที่เกิดขึ้นในขณะที่แปรงฟันหรือในระหว่างการรักษาทางทันตกรรม เป็นต้น ดังนั้นการทำความเข้าใจถึงเหตุผลและการรักษาแผลพุพองเหล่านี้ จะช่วยให้คุณปลอบประโลมลูกได้ดีค่ะ

สาเหตุของการเกิดแผลในปาก

การเกิดแผลในปากของเด็กนั้นเกิดขึ้นไม่บ่อยนักและมักสร้างความหงุดหงิดให้กับเด็กเป็นอย่างมากค่ะ สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เกิดแผลในปากได้แก่ การขาดวิตามินบางชนิด การดื่มน้ำไม่เพียงพอยังสามารถทำให้เกิดแผลเปื่อย การแพ้อาหารหรือสารระคายเคืองอื่นๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารร่วมด้วย แผลเปื่อยจากการกัดปากหรือใช้แปรงสีฟันแข็ง ปัญหาของโรคปากนกกระจอกที่สามารถส่งผ่านทางพันธุกรรมให้กับเด็ก เป็นต้น

สัญญาณและอาการของแผลในปาก

แผลในปากที่เกิดขึ้นนั้นเราไม่อาจระบุสาเหตุของการเกิดแผลได้ค่ะ แต่มักแสดงสัญญาณและอาการดังนี้ แผลมักจะมีขนาดเล็กประมาณ 6 มม. มีจุดศูนย์กลางสีขาวที่มีเส้นขอบสีแดงล้อมรอบ รู้สึกเจ็บปวดหรือแสบร้อน หรืออาจมีเลือดออกโดยเฉพาะขณะแปรงฟันหรือเคี้ยวอาหาร และแผลเปื่อยที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสสามารถมาพร้อมกับไข้

การรักษาแผลในปาก

แผลในปากไม่จำเป็นต้องใช้ยาพิเศษใดๆค่ะ สามารถรักษาด้วยตนเองได้ในไม่กี่วันหรือใน 2-3 สัปดาห์ขึ้นอยู่กับขนาดและลักษณะของแผล ความเจ็บปวดจากแผลมักจะบรรเทาลงภายใน 3-4 วัน การดูแลรักษาด้วยตัวเองที่มีประสิทธิภาพคือ การผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์กับน้ำและเช็ดเบาๆลงบนแผล ซึ่งจะช่วยให้แผลหายเร็วและบรรเทาจากความเจ็บปวดได้ค่ะ และควรหลีกเลี่ยงอาหารร้อนหรือมีรสเปรี้ยว เพราะจะทำให้แผลในปากและกระเพาะอาหารเจ็บปวดยิ่งขึ้น นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้เจลหรือครีมสำหรับใช้รักษาแผลในช่องปากในบริเวณที่มีอาการ ในกรณีที่มีอาการปวดอย่างรุนแรงสามารถขอให้แพทย์จ่ายยาที่เหมาะสมกับลูกของคุณค่ะ

การป้องกันแผลในปากเปื่อยเน่า ซึ่งเป็นการยากที่จะป้องกันแผลเปื่อยในขณะที่ไม่สามารถระบุสาเหตุที่แท้จริงได้ค่ะ ในกรณีที่มีอาการเจ็บปรากฏขึ้นซ้ำในบริเวณเดียวกันหลายๆครั้ง อาจเป็นเพราะฟันที่แหลมคม ในกรณีนี้แนะนำให้ไปหาหมอฟันและรับการตรวจฟันค่ะ นอกจากนี้คุณยังสามารถป้องกันเพื่อหยุดการแพร่กระจายเชื้อที่อาจเป็นสาเหตุของการเกิด ด้วยการรักษาสุขอนามัยที่เหมาะสม รวมถึงการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินกรดโฟลิกและธาตุเหล็กค่ะ