อาหารไม่ย่อยในเด็ก
อาหารไม่ย่อยในเด็ก
เด็กมักมีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ง่าย แม้ว่าจะได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ทั้งในเรื่องของอาหารและสุขอนามัยที่ดีของลูก โดยเฉพาะเด็กวันเข้าโรงเรียนที่จะต้องเผชิญกับองค์ประกอบภายนอกที่จะมีผลกระทบสำคัญต่อสุขภาพ และหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยคืออาหารไม่ย่อยหรือปวดท้อง ดังนั้นบทความนี้จะพาคุณพ่อคุณแม่มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาหารไม่ย่อยในเด็ก สาเหตุและการดูแลรักษาค่ะ
อาหารไม่ย่อยในเด็กคืออะไร
อาการอาหารไม่ย่อยเกิดขึ้นที่ส่วนบนของท้อง เมื่อเด็กรับประทานอาหารมากเกินไปหรือเร็วเกินไปไม่เหมาะกับร่างกาย สามารถมาพร้อมกับอาการท้องอืด แสบร้อน การเรออย่างต่อเนื่องและคลื่นไส้ อาการอาหารไม่ย่อยในเด็กมักพบหลังมื้ออาหาร และไม่ก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรงอาจหายไปในไม่กี่ชั่วโมง อย่างไรก็ตามหากเกิดซ้ำคุณแม่อาจต้องระบุสาเหตุที่แท้จริงและใช้มาตรการป้องกันการเกิดค่ะ
สาเหตุของการอาหารไม่ย่อยในเด็ก
อาหารไม่ย่อยมักจะเกิดขึ้นเมื่อกรดในกระเพาะอาหารที่จะมาทำลายเยื่อบุป้องกันของระบบย่อยอาหาร ซึ่งนำไปสู่การระคายเคืองของช่องท้องส่วนบน สาเหตุที่เกิดขึ้นเหล่านี้ควรได้รับการวินิจฉัยที่เหมาะสมเพื่อให้การรักษาที่เหมาะสมสำหรับเด็ก หากปล่อยทิ้งไว้ไม่ถูกรักษาการติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับกระเพาะอาหารอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่สำคัญได้ ดังนั้นการทำความเข้าใจสาเหตุของอาการอาหารย่อยในเด็กอาจเป็นกุญแจสำคัญ เพื่อป้องกันและบรรเทาอาหารที่ถูกต้อง สาเหตุทั่วไปของอาการอาหารไม่ย่อย ได้แก่
- การใช้ยาบางชนิด อาหารไม่ย่อยสามารถเกิดขึ้นได้เนื่องจากการใช้ยาบางชนิด มักจะเกิดขึ้นกับยาที่มีองค์ประกอบของไนเตรตซึ่งช่วยขยายหลอดเลือด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารทำให้กรดในกระเพาะอาหารรั่วไหล และเกิดการระคายเคืองเยื่อบุของระบบย่อยอาหาร หรือยาอื่นๆ เช่น ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) ฯลฯ เนื่องจากยาเหล่านี้มีผลต่อการทำงานของระบบย่อยอาหารและกรดในกระเพาะอาหาร
- โรคอ้วน เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในเด็กและผู้ใหญ่จากนิสัยการรับประทานอาหารในปัจจุบัน ดังนั้นเมื่อลูกของคุณเป็นโรคอ้วนมีแรงกดดันเพิ่มขึ้นภายในช่องท้อง ซึ่งอาจทำให้เกิดกรดไหลย้อนในหลอดอาหารในแต่ละครั้งที่ลูกของคุณรับประทานอาหาร
- ความเครียดและความวิตกกังวล ซึ่งความเครียดสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนแม้กระทั่งกับเด็กๆก็ตาม อาจทำให้เกิดพฤติกรรมการกินและการนอนหลับที่ผิดปกติ สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การย่อยในเด็ก
- โรคไส้เลื่อนกระบังลม (Hiatus hernia) เป็นภาวะที่ส่วนของกระเพาะส่วนหนึ่งดันเข้าไปในกะบังลมปิดกั้นหลอดอาหาร สามารถทำให้เกิดการย่อยที่ไม่มีประสิทธิภาพและการไหลย้อนของกรดตามมา
- การติดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter Pylori) สาเหตุทั่วไปอีกประการของการย่อยอาหารบ่อยครั้งเกิดจากการติดเชื้อ อาจนำไปสู่การเกิดแผลในกระเพาะอาหารและมะเร็ง ดังนั้นหากลูกของคุณกำลังมีอาการอาหารไม่ย่อยบ่อยครั้ง ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจที่ถูกต้อง
- โรคกรดไหลย้อน(GERD) เกิดขึ้นเนื่องจากมีอาการอาหารไม่ย่อยในเด็กซ้ำ ทำให้เกิดการอักเสบและการระคายเคืองของหลอดอาหาร อาหารไม่ย่อยจากสาเหตุนี้ต้องได้รับการดูแลรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- แผลในกระเพาะอาหาร ในกรณีที่กระเพาะอาหารของเด็กมีแผลเปิดซึ่งมีส่วนทำให้เกิดปัญหาอาหารไม่ย่อยได้เช่นกันค่ะ
อาการอาหารไม่ย่อยในเด็ก
อาการอาหารไม่ย่อยที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด คืออาการไม่สบายบริเวณช่องท้องส่วนบน และจุดที่ควรทราบคืออาการส่วนใหญ่เกิดขึ้นทันทีหลังอาหารค่ะ ในกรณีที่อาหารไม่ย่อยอย่างรุนแรงลูกของคุณอาจบ่นถึงความเจ็บปวดที่ไม่สามารถทนทานได้ ซึ่งอาการทั่วไปของอาการอาหารไม่ย่อยคือ ท้องอืดรู้สึกอึดอัดในท้อง เรอหรือผ่านลมบ่อย กรดไหลย้อนที่เพิ่มขึ้นซึ่งทำให้อาหารหรือของเหลวออกจากกระเพาะอาหารกลับเข้าไปในปาก คลื่นไส้ อาเจียน ฯลฯ ในกรณีลูกของคุณมีอาการอาหารไม่ย่อยหลังอาหารเกือบทุกมื้อ และมีอาการอื่นๆร่วมด้วยควรพบแพทย์ ได้แก่ ลูกของคุณลดน้ำหนัก เบื่ออาหาร กลืนอาหารลำบาก หายใจไม่ออกหรือเหงื่อออกโดยไม่มีเหตุผล มีอาการอาเจียนอย่างต่อเนื่อง อาเจียนหรืออุจจาระมีเลือดปน เป็นต้น
การรักษาอาการอาหารไม่ย่อยในเด็ก
แม้ว่าอาหารไม่ย่อยในเด็กส่วนใหญ่ไม่ต้องการการรักษาจากแพทย์ แต่ในกรณีที่อาการยังคงอยู่นานกว่า 2-3 ชั่วโมง ลูกของคุณรู้สึกไม่สบายรู้สึกเจ็บปวดมากคุณอาจต้องไปพบแพทย์ เพื่อหาสาเหตุของอาการที่เกิดขึ้น ซึ่งคุณแม่จะต้องแจ้งรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับอาการอาการของลูก รวมถึงนิสัยการรับประทานอาหารของลูกและข้อมูลเกี่ยวกับยาที่ลูกของคุณใช้ค่ะ
การรักษาโดยแพทย์จะทำการวินิจฉัยโดยการกดบริเวณรอบๆท้อง เพื่อทำความเข้าใจตำแหน่งของความเจ็บปวด ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยนี้เขาอาจกำหนดวิธีการรักษา หรือขอการตรวจสอบเพิ่มเติมในรูปแบบของการสแกน X-ray ช่องท้องหรือตรวจอุจจาระและปัสสาวะ เพื่อบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยในทันทีลูกของคุณ อาจได้รับยาลดกรดอ่อนเพื่อบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยค่ะ
การป้องกันอาหารไม่ย่อยในเด็ก
หากลูกของคุณมีระบบย่อยอาหารที่ละเอียดอ่อน สิ่งสำคัญคือคุณต้องกำหนดข้อจำกัดทางโภชนาการบางอย่าง อย่าให้ลูกกินอะไรผิดปกติที่ไม่เหมาะกับท้องของเขา และเคล็ดลับพื้นฐานในการป้องกันการย่อยในเด็ก ได้แก่ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำมันในปริมาณสูง หลีกเลี่ยงช็อคโกแลตในปริมาณมาก ปลูกฝังนิสัยการกินช้าๆเคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน มองหาวิธีที่จะทำให้ลูกของคุณมีความสุข อย่าปล่อยให้ลูกวิ่งหรือออกกำลังกายทันทีหลังอาหารมื้อใหญ่
อาหารไม่ย่อยเป็นอาการที่พบได้บ่อยในเด็กและผู้ใหญ่หลายคนเช่นกันค่ะ อย่างไรก็ตามควรใช้ความระมัดระวังการดูแลเอาใจใส่กับรายละเอียด และสังเกตลูกของคุณว่าเขามีปฏิกิริยาอย่างไรกับอาหารที่แตกต่างกัน และควรแพทย์ทันทีเมื่อพบสิ่งผิดปกติที่เกิดกับลูกของคุณค่ะ